ระยอง - แม่เด็กชายพิการในจังหวัดระยอง โร่ร้อง ตร.อ้างถูกเพื่อนหลอกพาไปออกรายการทีวีเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ แต่กลับถูกเพื่อนบ้านหลอกยึดบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชี ล่าสุด เพื่อนได้ย้ายออกจากจังหวัดระยองแล้ว ขณะที่เพื่อนบ้านแฉแม่เด็กพิการทำตัวไม่เหมาะสมต่อการมีผู้ช่วยเหลือ ส่วนตำรวจเร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริง
วันนี้ (24 ต.ค. ) น.ส.วันทนา แปวขุนทศ อายุ 33 ปี ได้นำ ด.ช.สมเจตน์ ทนง อายุ 13 ปี บุตรชายที่พิการ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.นวัธนันต์ ฉ่ำแสง ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรปลวกแดง จังหวัดระยอง เพื่อแจ้งว่าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารได้หายไป
พร้อมให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ถูกเพื่อนบ้านซึ่งพาไปออกรายการโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ และได้มีการโพสต์ข้อความชื่อบัญชีธนาคารเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใจบุญได้โอนเงินช่วยเหลือ ซึ่งผู้จัดรายการได้มอบสมุดบัญชีธนาคารให้แก่ตน
แต่เมื่อเดินทางกลับที่พักได้ถูก นางประณีต หรือหมู วรภักดี เพื่อนบ้านที่พาไปออกรายงานโทรทัศน์ ชักชวนพาไปทำบัตรเอทีเอ็ม และนำสมุดบัญชีออมทรัพย์ และบัตรเอทีเอ็มของตนไปเก็บไว้ โดยอ้างว่าจะเป็นคนจ่ายค่าเช่าบ้านให้ และยังให้ตนวางเงินดาวน์รถจักรยานยนต์ จำนวน 4,000 บาท ซึ่งชื่อผู้ซื้อเป็นญาตินางประณีต โดยที่ตนไม่ทราบว่ามีเงินในบัญชีจำนวนเท่าใด
หลังจากที่มอบบัตรเอทีเอ็ม และสมุดบัญชีให้แก่ นางประณีต ไปแล้ว ตนต้องโทรศัพท์ไปหาเพื่อขอเงินใช้ แต่กลับถูกด่ากลับมาทุกครั้ง และที่ผ่านมา นางประณีต ได้ให้ญาตินำเงินมาให้ใช้เพียง 500 บาท พร้อมกำชับว่าจะให้เงินใช้เป็นเดือนสุดท้าย เนื่องจากไม่มีเงินแล้ว
เมื่อตนนำเรื่องไปปรึกษาเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลละหาร เพื่อให้พาไปยังธนาคารไทยเจ้าของบัญชี เพื่อตรวจสอบเงินในบัญชีว่ามียอดเงินฝากเท่าใด ก็พบว่ามียอดเงินฝากทั้งหมด 161,000 บาท แต่กลับมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเพียง 300 บาท
ขณะที่ ร.ต.อ.นวัธนันต์ ฉ่ำแสง ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรปลวกแดง ได้ทำการสอบปากคำ น.ส.วันทนา อย่างละเอียดจึงทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นางประณีต ซึ่งแนะนำให้ไปออกรายการทีวีเป็นผู้ติดต่อนักข่าวให้มาทำข่าว ก่อนพา นางวันทนา และลูกไปออกรายการทีวีที่กรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ นางประณีต ยังเคยพาคนข้างบ้านไปออกรายการโทรทัศน์จนได้เงินช่วยเหลือมาแล้ว
น.ส.วันทนา ให้การเพิ่มเติมว่า นางประณีต ได้พูดจาหว่านล้อมตนว่าหากไปออกรายการโทรทัศน์จะได้มีรถจักรยานยนต์ และความเป็นอยู่สุขสบายขึ้น แต่มีข้อตกลงว่าเงินในบัญชีจะต้องแบ่งคนละครึ่ง
หลังจากนั้น นางประณีต ได้ยึดสมุดบัญชี และบัตรเอทีเอ็ม และได้เงินจาก นางประณีต ประมาณกว่า 10,000 บาทเท่านั้น ทั้งที่ยอดเงินในบัญชีธนาคารมีมาก 161,000 บาท ซึ่งขณะนี้พบว่าถูกถอนออกไปเกือบหมด และหลือติดบัญชี จำนวน 300 บาทเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นางประณีต ได้ย้ายออกจากจังหวัดระยองไ ปอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ โดยพบว่า ชื่อนางประณีต วรภักดี เป็นคนที่มีอายุมากแล้ว แต่เจ้าทุกข์กลับบอกว่า นางประณีต มีอายุประมาณ 40 ปีเศษเท่านั้น จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการหลอกใช้ชื่อคนอื่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อได้หลักฐานจากกล้องวรจรปิดหน้าตู้เอทีเอ็มตามจุดต่างๆ ก็พร้อมออกหมายจับในทันที พร้อมตั้งข้อหาลักทรัพย์สมุดบัญชี และเงินในบัญชีโดยใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์
ด้านชาวบ้านใกล้เคียงซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับ นางวันทนา และลูกชายพิการ ได้บอกต่อผู้สื่อข่าวว่ามักได้ยินเสียงเด็กพิการร้องกลางคืนเกือบทุกคืน โดยที่แม่ไม่สนใจ และบางวันก็พบว่าแม่ของเด็กพิการได้ตั้งวงกินเหล้ากับผู้ชาย และนั่งซ้อนท้ายผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ทั้งยังทำตัวไม่สมกับที่ไปออกรายการทีวีช่องดัง ซึ่งหากคนที่โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อช่วยเหลือทราบความจริงจะมีความรู้สึกเช่นไร