เชียงราย - คาดประชุมหอการค้าไทยที่เชียงรายต้น พ.ย. ทำเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวคึกคัก คนร่วมงาน 3-4 พันคน เงินสะพัดวันละร้อยล้าน พร้อมเตรียมยื่นหนังสือเปิดผนึกให้รัฐบาล “บิ๊กตู่”
วันนี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน หอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดเชียงราย กำหนดจัดการประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 32 ที่หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และโรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท จ.เชียงราย โดยวันที่ 21 พฤศจิกายน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย จะร่วมเปิดสำนักงานหอการค้าจังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียง ก่อนร่วมประชุมหอการค้าภาค 5 ที่โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย ในหัวข้อยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคเหนือ และแนวโน้มเศรษฐกิจ 5 ภาค และการสัมมนาเรื่องการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของ YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce)
ส่วนพิธีเปิดจะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อมการสัมมนาหัวข้อ “เปลี่ยนหัวคิด ก้าวไป สู่ชัยชนะ” โดย พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “กระทรวงมหาดไทยกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค” จากนั้นมีการแบ่งกลุ่มสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง "อาเซียน:โอกาสที่ไร้พรมแดน , นวัตกรรม เราต้องทำ" และเรื่อง "ต้องเป็นเลิศตลอด ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ" ช่วงค่ำวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดการแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "การขับเคลื่อนนโยบายทางการค้า:การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน" ณ หอประชุมสมเด็จย่า
และวันที่ 23 พฤศจิกายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ความร่วมมือระหว่างหอการค้า กับการท่องเที่ยว" จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมสัมมนา และแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไป"
นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาและผู้ติดตามประมาณ 3,000-4,000 คน และยังจะมีผู้บริหารระดับสูงของประเทศอีกหลายคนเดินทางมาร่วมด้วย เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจช่วงต้นฤดูหนาวคึกคักขึ้น มีเงินสะพัดช่วงเวลาดังกล่าววันละกว่า 100 ล้านบาท หรือรวมตลอด 3 วันไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
ส่วนผลดีในระยะกลางและระยะยาว คือ การที่ภาคเอกชนจะได้ระดมสมอง และนำผลเสนอการพัฒนาต่อผู้บริหารระดับสูงของประเทศได้โดยตรง ซึ่งกรณีจังหวัดเชียงราย จะนำเสนอแนวทางการพัฒนาต่อที่ประชุมสัมมนา และทำหนังสือเปิดผนึกต่อรัฐบาล 3 เรื่อง คือ
1. ให้รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาเขตพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเคยกำหนดให้เราดำเนินการในเฟส 2 ร่วมกับ จ.หนองคาย จ.กาญจนบุรี จ.นราธิวาส และ จ.นครพนม ในปี 2559 รวมถึงการขอทราบรายละเอียดของเขตดังกล่าวว่าจะเป็นอย่างไร
2. ขอให้มีการขยายถนนสายหลักใน จ.เชียงราย เพิ่มเติมจากถนนพหลโยธินจาก อ.เมือง-แม่สาย ที่แออัดมาก โดยควรจะมีถนนคู่ขนาน จะเป็นถนนปกติหรือมอเตอร์เวย์ไปยังอำเภอชายแดนก็ได้
3. ขอให้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า เพื่อเป็นแหล่งจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าที่จะส่งออกสู่กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงหรือจีเอ็มเอส ซึ่งศูนย์แห่งนี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักธุรกิจรุ่นใหม่ได้ด้วย