ศูนย์ข่าวศรีราชา - วงจรปิดจับภาพ 4 ลูกเรือกัมพูชาสุดโหด ยกพวกพร้อมท่อนเหล็กบุกกระหน่ำตี 5 คนไทยคาวงเหล้าแตกกระเจิง หนุ่มใหญ่วัย 48 พลาดท่าล้ม เจอกระหน่ำตีศีรษะดับอนาถ สาหัส 2 ราย ตำรวจสัตหีบไล่ล่าจับกุมได้ 2 ราย อีก 2 ยังหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (9 ต.ค.) พล.ต.ต.นิติพงษ์ เนียมน้อย รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพนิช รอง ผบก.ภ.จว. พ.ต.อ.ชวพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.ป.สภ.สัตหีบ และชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายพร อายุ 28 ปี และนายเฮง อายุ 25 ปี สัญชาติกัมพูชา ลูกเรือประมงมงคลสมุทร 5 ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส พร้อมของกลางท่อนเหล็กยาว 2-4 เมตร รวม 4 ท่อน
พล.ต.ต.นิติพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.45 น. คืนวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกสัญชาติเดียวกันที่ยังหลบหนี คือ นายโฮ อายุ 20 ปี นายพร อายุ 22 ปี ใช้ท่อนเหล็กรุมตีทำร้ายร่างกายกลุ่มคนไทย 5 คน ที่ตั้งวงดื่มสุราอยู่ริมถนน กลางซอยธรรมวิทยา หมู่ 2 ต.สัตหีบ ส่งผลให้ นายดิเลก อยู่สวัสดิ์ อายุ 48 ปี ถูกตีด้วยท่อนเหล็กเข้าที่ศีรษะหลายครั้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย คือ นายสุเทพ อำมาตย์มนตรี อายุ 57 ปี และนายสุทัศน์ กังวาลย์ อายุ 33 ปี ที่พากันวิ่งหลบหนีลงเรือที่จอดเทียบท่าอยู่บริเวณสะพานปลาประเทือง ห่างจุดเกิดเหตุเพียง 500 เมตร สำหรับคนร้ายอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีคาดจะสามารถจับกุมตัวได้ในไม่ช้า เบื้องต้นต้องขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้ตาย และผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยพร้อมจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
สำหรับชนวนเหตุการณ์ในครั้งนี้ จากการสอบปากคำ 2 ฝ่ายทราบว่า นายพร และผู้ตายได้เกิดทะเลาะมีปากเสียงถึงขั้นชกต่อยกัน ฝ่ายผู้ตายเห็นมีคนน้อยกว่าจึงวิ่งออกไปตามพวกที่อยู่บนเรือมาพร้อมกับท่อนเหล็กที่ติดมือมาคนละท่อน ก่อนจะจู่โจมเข้ารุมกระหน่ำตีกลุ่มคนไทยอย่างไม่ยั้ง ชนิดวงแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง แต่ผู้ตายเกิดเสียหลักล้มจึงถูกรุมตีเข้าที่ศีรษะจนเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ต้องยกเลิกทันที เนื่องจากมีกลุ่มญาติพี่น้องของผู้ตาย และประชาชนรวมกว่า 200 คน มาดักรอดูการทำแผน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหวั่นจะเกิดอันตรายต่อตัวผู้ต้องหา จึงต้องยกเลิกทันควัน ทำเอาผู้มาเฝ้าดูต่างไม่พอใจ
