ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือนำเครื่องบิน 4 ลำขึ้นบินปฏิบัติการบรรเทาภัยแล้งและเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเป้าหมายหลัก “เขื่อนแม่กวง” ที่พบว่าปริมาณน้ำในอ่างกักเก็บเหลือน้อยเข้าขั้นวิกฤต
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือนำเครื่องบินจำนวน 4 ลำ บรรทุกสารทำฝนหลวง ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่สำหรับใช้ในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่ปัจจุบันพบว่ามีปริมาณน้ำในอ่างน้อยจนอยู่ในขั้นวิกฤต
ทั้งนี้ นายสินชัย พึ่งตำบล นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ซึ่งมีพื้นที่ดำเนินการครอบคลุมพื้นที่ 15 จังหวัดภาคเหนือ มีการตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดตาก ได้รับสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ผ่านกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เร่งออกปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนหลักของภาคเหนือ
สำหรับการปฏิบัติการในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่วันนี้ ใช้เครื่องบินในการปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 4 ลำ บรรทุกสารฝนหลวงที่ใช้โปรยเพื่อปฏิบัติการครั้งนี้ประมาณ 3 ตัน มีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นและเพียงพอใช้ในช่วงฤดูแล้ง
โดยส่วนของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลนั้น เบื้องต้นแม้ปริมาณน้ำจะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่ฝนที่ตกในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปริมาณน้ำมากขึ้นจนพ้นจุดวิกฤตแล้ว แต่ในส่วนของเขื่อนแม่กวงอุดมธารายังมีสถานการณ์ปริมาณน้ำที่น้อยอย่างน่าเป็นห่วง จึงจะเป็นเป้าหมายที่เน้นเป็นพิเศษของการปฏิบัติการฝนหลวงในครั้งนี้
นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ บอกว่า สภาพอากาศในขณะนี้มีความชื้นลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. 57 นี้คาดว่าจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลทำให้เมฆมีการยกตัวสูงขึ้นและเกิดฝนฟ้าคะนองได้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนแม่กวงอุดมธาราให้ได้มากที่สุด
พร้อมทั้งย้ำว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ 3 จังหวัด มีการเตรียมความพร้อมที่จะออกปฏิบัติการตลอดเวลา หากสภาพอากาศมีความเหมาะสมที่จะทำฝนหลวง ซึ่งมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องอยู่แล้ว เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง
ขณะที่รายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ข้อมูลจากสำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ ระบุว่า ณ วันที่ 7 ต.ค. 57 ในส่วนของเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 169 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 64 ของความจุอ่าง สามารถใช้การได้ 147 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 43 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 16 ของความจุอ่าง สามารถใช้การได้ 29 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดยจากสถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ดังกล่าวนั้น รายงานข่าวระบุว่า ในส่วนของพื้นที่เพาะปลูกที่ใช้น้ำจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เบื้องต้นถือว่ามีความเสี่ยงน้อยที่จะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ในการเพาะปลูกช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ที่มีปริมาณน้ำน้อย ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
โดยเฉพาะปัญหาปริมาณน้ำไปเพียงพอใช้เพาะปลูกในพื้นที่ท้ายเขื่อนในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง ซึ่งทางชลประทานเตรียมที่จะมีการวางแผนการใช้น้ำและประสานกับทางเกษตรกรในการจำกัดพื้นที่การเพาะปลูกพืชที่ต้องใช้น้ำมาก เช่น ข้าว เป็นต้น โดยจะต้องมีการบริหารจัดการแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
