ประชาชนให้ความสนใจเวทีรีบฟังความเห็น โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมการขนถ่ายสินค้าเกาะสีชังน้อยมาก

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เวทีรีบฟังความคิดเห็นผลกระทบสิ่งแวดล้อม-ภาวะมลพิษการขนส่งสินค้าบริเวณเกาะสีชัง รองรับการขยายตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหงอย ขาดการสนใจจากผู้เกี่ยวข้อง

วันนี้ (8 ต.ค.) นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ร่างข้อมูลเสนอมาตรการแนวทางการกำหนดนโยบาย กฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในการขนถ่ายสินค้าทางเรือ ครั้งที่ 1 ภายใต้โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและภาวะมลพิษ กรณีการขนส่งสินค้าบริเวณเกาะสีชัง เพื่อประเมินศักยภาพและผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในการเป็นเขตขนส่งสินค้าระดับภูมิภาค เพื่อรองรับการขยายตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยกองแผนงานและประเมินผล กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย

ดร.สมภพ รุ่งสุภา จากสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางทะเลในปัจจุบันใช้เรือบรรทุกสินค้าทีมีขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดความคุ้มค้าทางเศรษฐกิจ ดังนั้น เรือบรรทุกสินค้าขนาด 20,000-120,000 ตัน มีประมาณ 2000 ลำต่อปี จะไม่สามารถเข้าจอดที่ท่าเรือได้ จึงต้องมีการขนถ่ายสินค้ากันนอกชายฝั่ง โดยใช้วิธีขนถ่ายจากเรือเล็กขึ้นเรือใหญ่ หรือจากเรือใหญ่ลงสู่เรือเล็ก ซึ่งในระว่างการขนถ่ายกลางทะเล ทำให้เกิดมีการฟุ้งกระจาย และตกเป็นตะกอนสะสมใต้พื้นทะเล

ทางกรมควบคุมมลพิษ จึงมอบให้สถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่ปรึกษากษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและภาวะมลพิษ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและภาวะมลพิษ กรณีการขนส่งสินค้าระหว่างเรือบรืเวณอ่าวศรีราชา-เกาะสีชัง โดยต้องมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างข้อเสนอดังกล่าว รวมทั้งกิจกรรมอื่นทีมีผลกระทบ ร่างข้อเสนอแนวทางการฟื้นฟูคุณภาพน้ำและตะกอนดินในทะเล บริเวณรอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมการขนถ่ายสินค้า และร่างข้อเสนอการพัฒนาการขนถ่ายสินค้าทางเรือในพื้นที่ศึกษา เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันการขนส่งสินค้าในภูมิภาคอาเซียน จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการประกอบกิจการขนส่งทางเรือ 2 ครั้ง เพื่อนำข้อมูล และข้อเสนอแนะที่ได้จากการจัดประชุม ไปปรับปรุงร่างข้อเสนอมาตรการ ร่างข้อเสนอแนวทาง และร่างข้อเสนอการขนถ่ายสินค้าให้มีความสมบูรณ์และเหมาะสมต่อไป

ซึ่งหลังจากรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้แล้ว จะนำไปรวบรวมปรับปรุงแก้ไขร่าง และวันที่ 21-22 ตุลาคม จะนำเสนอให้แก่ประชนชนรับทราบอีกครั้ง หลังจากนั้น จะนำไปปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่คนในพื้นที่ แล้วนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 6 พฤศจิกายน เพื่อรับรอง และประกาศใช้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้เงียบเหงามาก ทั้งที่เป็นการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ แต่กลับไม่ได้รับความสนใจ ทั้งที่เป็นเรื่องใกล้ตัว