xs
xsm
sm
md
lg

อาชีวะอุบลฯ พร้อมโชว์ฝีมือไหลเรือไฟงานออกพรรษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เจ้าของถ้วยรางวัลประกวดเรือไฟพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สองปีซ้อน พร้อมโชว์ผลงานไหลเรือไปในเทศกาลออกพรรษาปีนี้
อุบลราชธานี - วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เจ้าของถ้วยรางวัลประกวดเรือไฟพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สองปีซ้อน ร่วมกับสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี และ อบจ.อุบลฯ จัดแสดงไหลเรือไฟโชว์ในเทศกาลวันออกพรรษา เผยใช้ศิลปะลาวประยุกต์เล่าเรื่องความผูกพันมนุษย์กับแม่น้ำผ่านหลอดไฟแอลอีดี 10,000 ดวง

วันนี้ (7 ต.ค.) น.ส.สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี กล่าวถึงการจัดงานประเพณีออกพรรษา ลอยกระทง ไหลเรือไฟ และแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2557 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 ตุลาคมนี้ ที่ริมแม่น้ำมูล บริเวณท่าน้ำริมแม่น้ำมูลตลาดใหญ่ โดยเป็นการจัดงานประเพณีปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาจำหน่ายในบริเวณงานโดยเด็ดขาด

โดยช่วงเย็นวันที่ 8 ต.ค.คุ้มวัดชุมชนที่ส่งกระทงขนาดใหญ่จะนำมาตั้งโชว์ พร้อมประกวดนางนพมาศประจำปี และประกวดการไหลเรือไฟ ส่วนเช้าวันรุ่งขึ้นพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ ณ ลานหน้าตลาดสดเทศบาล 3 (ตลาดใหญ่) ขณะที่ช่วงเย็นประกวดแดนเซอร์สลับการแสดงบนเวที

วันที่ 11 ต.ค.ทำพิธีบวงสรวงแม่ย่านาง ที่ท่าน้ำตลาดสดเทศบาล 3 เคลื่อนขบวนอัญเชิญถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากหน้าสำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานี ไปประดิษฐานที่เวทีท่าน้ำวัดหลวง เพื่อเปิดพิธีแข่งเรือยาวประจำปีและมอบถ้วยรางวัลพระราชทานแก่เรือที่ชนะเลิศในวันต่อมา

ด้าน ดร.ธนกร ไชยกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี กล่าวว่า ปีนี้วิทยาลัยอาชีวศึกษา ซึ่งมีผลงานการประกวดเรือไฟในเทศกาลวันลอยกระทง ชนะเลิศระดับประเทศ 2 ปีซ้อนได้รับรางวัลพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้เข้าร่วมทำเรือไฟในงานประเพณีของจังหวัดอุบลราชธานีปีนี้ เพื่อโชว์ศักยภาพแนวคิดด้านศิลปกรรมของนักศึกษาของสถาบัน เรือไฟดังกล่าวใช้เงินลงทุนกว่า 4 แสนบาท ประดับหลอดไฟแอลอีดี 10,000 ดวง ซึ่งจะทำให้คุ้งน้ำบริเวณจัดแสดงเรือไฟสว่างไสว และจะจัดแสดงต่อเนื่องไปถึงวันที่ 12 พ.ย. เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ชมอย่างเต็มที่ด้วย

ขณะที่นายพิศิษฐ์ ภู่ศิริกุลพาณิชย์ หัวหน้าคณะภาพวิชาศิลปกรรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี กล่าวถึงแนวคิดการจัดทำเรือไฟในเทศกาลออกพรรษาประจำปีนี้ว่า ทำเป็นปราสาทเรือนแก้วบนสวรรค์ ยอดบนสุดเป็นตัวปราสาท จั่วเป็นรูปพญานาค ซึ่งอธิบายถึงความผูกพันของมนุษย์กับแม่น้ำ ตรงกลางจั่ววางลวดลายเป็นศิลปะแบบลาวประยุกต์ ส่วนบริเวณเสาค้ำยันทำเป็นรูปดอกบัว ซึ่งหมายถึงจังหวัดอุบลราชธานี วางรายล้อมด้วยตุงศิลปะอีสาน

ส่วนด้านล่างตัวเรือทำเป็นพญานาคสองตัวซ้ายขวาเล่นเกลียวคลื่นน้ำ ส่วนทางเดินลงไปในเรือยังประดับด้วยธงตุงยาวสุดลูกตา เมื่อพระอาทิตย์ตกดินหลอดไฟที่ประดับบนตัวปราสาทเรือนแก้วถึงทางเดินจะสว่างไสวไปทั่วท้องน้ำ จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าชมความงามของเรือไฟประดับที่จะจอดโชว์ให้ชมตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. ไปจนถึงวันที่ 12 พ.ย.นี้



กำลังโหลดความคิดเห็น