ชาวแปดริ้วฮือไล่ ผอ.โรงเรียนบริหารงานไม่โปร่งใส อมเงินค่าอาหารกลางวัน นร. (ชมคลิป)

ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านคลองหลวงแพ่ง ฉะเชิงเทรา สุดทนรวมตัวเดินขบวนขับไล่ “ผอ.โรงเรียนแพ่งพิทยาภูมิ” หลังพบบริหารงานไม่โปร่งใสหลายเรื่อง ทั้งเงินรายได้จากขายอาคารไม้เก่าของโรงเรียน 2 หลังก็หายไป แถมยังมีพฤติกรรมอมเงินค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน และนั่งดื่มสุราในงานเข้าค่ายปฏิบัติธรรมที่จัดขึ้นภายในโรงเรียนอย่างไม่เหมาะสม ขณะที่ตัว “ผอ.” ล่องหน ไม่ยินยอมเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่และชี้แจงข้อข้องใจของชาวบ้าน


เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (29 ก.ย.) ที่ด้านหน้าโรงเรียนแพ่งพิทยาภูมิ หมู๋ 13 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านคลองหลวงแพ่ง จำนวน 86 คน ได้รวมตัวกันถือแผ่นป้ายกระดาษเขียนข้อความถึงข้อข้องใจเกี่ยวกับงบประมาณ และเงินสนับสนุนด้านต่างๆ ของโรงเรียนที่กลุ่มชาวบ้านเชื่อว่าถูกใช้ไปอย่างไม่โปร่งใส และยังมีข้อความการร้องเรียนขับไล่ผู้อำนวยการของโรงเรียนประจำหมู่บ้านดังกล่าวแห่งนี้

จากนั้นกลุ่มชาวบ้านจึงได้ร่วมกันเดินขบวนพร้อมส่งเสียงร้องขับไล่ นายสกล สัตยธรรม ผอ.โรงเรียนดังกล่าวให้ออกไปให้พ้นพื้นที่ ก่อนที่จะเดินวนไปยังภายในโรงเรียนผ่านหน้าอาคารเรียน จำนวน 3 รอบ ขณะที่เด็กๆ นักเรียนพร้อมด้วยครูอาจารย์ ซึ่งกำลังทำการเรียนกันอยู่ภายในอาคาร จำนวน 185 คน ต่างออกมายืนมุงดูอยู่ที่ด้านหน้าห้องเรียนด้วยความสนใจ

นายพีรวิทญ์ มาลัยรักษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 13 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า เหตุที่ชาวบ้านต้องออกมาเดินขบวนขับไล่ ผอ.โรงเรียนแห่งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา หลังจาก ผอ.คนนี้ย้ายเข้ามาบริหารโรงเรียนแห่งนี้นานกว่า 10 ปีแล้ว โรงเรียนไม่มีการพัฒนาอะไรที่ดีขึ้น มีแต่ย่ำแย่ลง แม้แต่เด็กๆ จะไปแข่งขันกีฬากับทางโรงเรียนอื่นๆ ก็ยังไม่มีแม้แต่ชุดกีฬาจะใส่ไปแข่งขัน จนชาวบ้านต้องช่วยกันเรี่ยไรไปขอความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการห้างร้านมาจัดหาให้กันเอง

นอกจากนี้ ชาวบ้านเชื่อว่าในการบริหารงานที่ผ่านมาของ ผอ.รายนี้ ได้มีการบริหารงานอย่างไม่โปร่งใส และไม่เคยมีการชี้แจงแสดงรายละเอียดใดๆ ในการใช้เงินสนับสนุนในด้านต่างๆ ที่ทางโรงเรียนได้รับมาให้แก่ชาวบ้านทราบ ทั้งเงินรายได้จากการขายอาคารเรียนหลังเก่า และโรงอาหาร จำนวน 2 หลัง ซึ่งเป็นไม้เก่าคุณภาพยังดีอยู่ที่ถูกรื้อไปก็ได้สูญหายไป โดยไม่ทราบว่าเงินที่ได้จากการขายอาคารไม้ทั้ง 2 หลังนั้นหายไปไหน

นอกจากนี้ ยังมีเงินผ้าป่าช่วยเหลือโรงเรียนอีก 5 หมื่นบาท ที่มีกลุ่มองค์กรภาคเอกชนจัดกิจกรรมมาให้การสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อปรับปรุงโรงเรียนก็หายไปด้วย โดยที่ไม่รู้ว่า ผอ.รายนี้นำเงินไปใช้อะไรหมด

ขณะเดียวกัน ยังมีความไม่โปร่งใสในการใช้เงินงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนมาจาก อบต.คลองหลวงแพ่ง ที่ทาง ผอ.ได้บังคับให้ทางแม่ครัวของโรงเรียนเซ็นชื่อรับเงินค่าอาหารกลางวัน ที่ทาง อบต.จัดงบมาสนับสนุนให้รายเดือน เดือนละประมาณ 15,000-17,000บาท แต่ก็ไม่ได้มีการนำเงินมาให้ใช้จ่ายในการซื้อกับข้าว หรือวัตถุดิบในการปรุงอาหารให้แก่นักเรียนแต่อย่างใด

โดยมีเพียงเงินที่ได้รับการสนับสนุนแบบรายสัปดาห์จากทาง อบต.คลองหลวงแพ่ง เป็นรายหัวๆละ 20 บาทต่อสัปดาห์ที่เบิกจ่ายผ่านทางครูในโรงเรียนมาเป็นเงินรวม 3,700 บาท ต่อจำนวนนักเรียน 185 คน ทั้งครูอาจารย์อีก 14 คน ที่ต้องกินอาหารในที่เดียวกัน จึงทำให้อาหารไม่เพียงพอต่อเด็ก และไม่มีคุณภาพ ขาดรสชาติ เพราะขาดเครื่องปรุง โดยเงินจำนวนดังกล่าวสามารถทำอาหารกลางวันแบบขาดแคลนเครื่องปรุงรสได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

“การรวมตัวขับไล่ ผอ.โรงเรียนของชาวบ้านในครั้งนี้ เหตุเพราะชาวบ้านเหลืออด และสุดที่จะทนต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้บริหารโรงเรียน ที่นั่งดื่มสุราในงานเข้าค่ายปฏิบัติธรรมที่จัดขึ้นภายในโรงเรียน แต่จะสอนให้เด็กๆ ถือศีลไม่ให้ดื่มสุราได้อย่างไร ชาวบ้านจึงทนไม่ไหวต่อสภาพสถานศึกษาของบุตรหลานที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้แล้ว”