ศรีสะเกษ- ชาวเขมรชุมนุมประท้วงปิด “ด่านช่องสะงำ” ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ เหตุไม่พอใจไทยเก็บค่าธรรมเนียมสินค้าแพง และขอให้ใช้บัตรพิเศษในการเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าแทนพาสปอร์ต พร้อมข้อเรียกร้องอื่นๆ ด้านรองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นำคณะรุดเคลียร์กับรองผู้ว่าฯ เขมร สุดท้ายตกลงกันได้ให้เปิดด่านตามปกติ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งวันนี้เป็นวันเปิดตลาดนัดที่บริเวณตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 2 กิโลเมตร (กม.) ปรากฏว่า ไม่มีพ่อค้าแม่ค้าประชาชนชาวกัมพูชาเข้ามาหาซื้อสินค้าเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
โดยชาวกัมพูชา จำนวนประมาณ 100 คน ได้พากันชุมนุมประท้วงปิดด่านช่องสะงำ ในเขตแดนกัมพูชา พร้อมนำเอากิ่งไม้มาปิดเส้นทางจราจร และถือป้ายเรียกร้องให้ทางการของกัมพูชาเจรจากับฝ่ายไทยเนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการเข้ามาหาซื้อสินค้าในเขตแดนไทย เช่น เรียกร้องให้ทางการไทยใช้บัตรพิเศษในการผ่านแดนเข้ามาหาซื้อสินค้า โดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ตในวันเวลาราชการปกติ อีกทั้งให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการนำสินค้าที่ซื้อในเขตแดนไทยเข้าไปขายในเขตกัมพูชา โดยที่ผ่านมา ชาวกัมพูชาต้องเสียค่าธรรมเนียมรถขนสินค้าคันละ 600-1,000 บาท รวมทั้งให้อำนวยความสะดวกแก่ชาวกัมพูชาที่เจ็บป่วยหนัก เหยียบกับระเบิดให้เข้าไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลของไทยเพื่อทำการรักษาพยาบาลโดยสะดวกด้วย
ต่อมา นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.สาธิต เกิดโภค รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี ร.ต.อ.ปรีชา ประดิษฐ์ศิลป์ รอง สว.หัวหน้าจุดตรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องสะงำ นายอมรเทพ กอศรีพร หัวหน้าชุดด่านศุลกากรช่องสะงำ ได้เข้าไปร่วมประชุมปรึกษาหารือเพื่อหาทางแก้ไขปัญหากับทางฝ่ายกัมพูชา นำโดย นายวัด ปาลานิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย นายยิ้ม พันนา นายอำเภออัลลองเวง พ.อ.โต๊ด รา ประธานหัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย นายกรุย สมบัติ ประธานช่องสะงำ
โดยประชุมร่วมกันที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชาได้นำข้อเรียกร้องของชาวกัมพูชาข้างต้นแจ้งให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะฝ่ายไทยทราบเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน
นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ชาวกัมพูชาประท้วงเนื่องจากขณะนี้ฝ่ายไทยมีการจัดระเบียบตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ และอาจมีคนไปปล่อยข่าวลือว่า มีการเก็บเงินค่าผ่านด่าน และค่าธรรมเนียมอะไรต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการผ่านด่านแต่อย่างใด จึงได้มาประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง แล้วสอบถามว่ามีการเก็บเงินค่าผ่านด่านหรือไม่ ทราบว่าไม่มีการเก็บเงินค่าผ่านด่านแต่อย่างใด
ดังนั้น จึงได้มาประชุมทำความเข้าใจกับทางกัมพูชาเพื่อให้ไปแจ้งประชาชนชาวกัมพูชาว่า การข้ามแดนไปยังตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ ของไทย สามารถข้ามไปได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันพฤหัสบดี กับวันอาทิตย์ มีการผ่อนผันใช้แค่บัตรประชาชนมาแสดง และเจ้าหน้าที่จะออกเอกสารให้ชาวกัมพูชาสามารถผ่านเข้าไปหาซื้อสิ่งของได้ แต่หากเป็นวันเวลาราชการปกติทั่วไปที่ไม่ใช่วันที่จัดให้มีตลาดนัด จะต้องใช้พาสปอร์ตในการผ่านเข้าออก เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า การที่ชาวกัมพูชาผ่านแดนเข้าออกอาจมีคนไปปล่อยข่าวว่าจะมีการเก็บเงินคนละเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่มีการเรียกเก็บเงิน และตนได้กำชับว่าไม่ให้มีการเก็บเงินอย่างเด็ดขาด ซึ่งชาวกัมพูชาส่วนมากจะซื้อสินค้าไปใช้ในครัวเรือนไม่ใช่ซื้อสินค้าไปจำหน่ายครั้งละมากๆ จึงได้กำชับให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้ และแจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาได้ทราบว่า ฝ่ายไทยพร้อมอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
ส่วนเรื่องตู้คอนเทนเนอร์นั้น ฝ่ายกัมพูชาต้องการนำตู้คอนเทรเนอร์มาตั้งติดแนวชายแดนไทยเพื่อเป็นสถานที่ทำงาน แต่เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เส้นเขตแดนยังไม่ชัดเจน จึงให้ฝ่ายกัมพูชาเสนอไปยังฝ่ายความมั่นคง คือ ทางกองทัพภาคที่ 2 ของไทย เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงที่จะต้องพิจารณาในเรื่องนี้
สำหรับเรื่องกรณีชาวกัมพูชาป่วยหนักจะคลอดลูก หรือเหยียบกับระเบิด ต้องการเข้าไปรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วนที่โรงพยาบาลในไทยนั้น ชาวกัมพูชาสามารถเข้าไปในเขตแดนไทยได้ตลอดเวลา โดยต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทราบ และทำเอกสารต่างๆ ในภายหลังได้ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ไปพบแพทย์ได้โดยด่วน
“หลังฝ่ายไทยได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว ทางฝ่ายกัมพูชาพอใจ และจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ชาวกัมพูชาที่ชุมนุมประท้วงอยู่ได้รับทราบ และขณะนี้ได้มีการเปิดด่านช่องสะงำในส่วนของกัมพูชาแล้ว เพื่อให้ประชาชนชาวกัมพูชา และชาวไทยผ่านเข้าออกตามปกติต่อไป” นายสุริยะ กล่าว