บุรีรัมย์ - วอนช่วยเหลือ “น้องดาม” เด็กชายวัย 11 ขวบ พิการทางสมอง ซ้ำเป็นโปลิโอแขนขาเกร็ง ลีบเล็ก พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่กำเนิด ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากมากว่า 10 ปี ครอบครัวฐานะยากจนพ่อแม่มีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน อาศัยเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 500 บาท ต้องออกหาปลา งมหอยประทังชีวิต ข้าวสารยังเซ็นเขากิน
วันนี้ (26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางกรรณิการ์ ศิริเวช สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่า พบ ด.ช.ชวลิต พานดวงแก้ว อายุ 11 ขวบ พิการเป็นโปลิโอตั้งแต่กำเนิด แขนขาลีบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยอาศัยเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 500 บาท และครอบครัวฐานะยากจนพ่อแม่ที่มีอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน เป็นที่น่าสงสารของเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย นายจิระวัฒน์ เรืองปรัชญากุล เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป นางสาวนนทิชา เถาว์ยา หัวหน้ากองสวัสดิการสังคม นางสาวมัชชุลี ราชสุทธิ์ นักพัฒนาชุมชน อบต.หัวฝาย และนางกรรณิการ์ ศิริเวช สมาชิก ส.อบต.หัวฝาย เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 บ้านตะแบง ต.หัวฝาย อ.แคนดง ซึ่งเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูนชั้นเดียว ของ นายอุดมสิน พานดวงแก้ว อายุ 43 ปี กับ นางหวาน ยีรัมย์ อายุ 45 ปี สองสามีภรรยา และ ด.ช.ชวลิต พานดวงแก้ว หรือ น้องดาม อายุ 11 ขวบ ลูกชายที่พิการทางสมองและโปลีโอ
เมื่อไปถึงพบ นางหวานกำลังนั่งดูแล ด.ช.ชวลิต หรือน้องดาม ที่นอนอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้าน ในสภาพน้องดามมีแขนขาลีบเล็ก มีน้ำหนักตัวเพียง 11 กิโลกรัม ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพียงแต่ส่งเสียงจากลำคอ เรียกพ่อและแม่เพื่อสื่อสาร และรับรู้จากการสัมผัสเท่านั้น
นางหวานเล่าว่า น้องดาม ลูกชาย ป่วยพิการทางสมอง ปัญญาอ่อน เป็นโปลิโอ แขนขาเกร็ง ลีบเล็ก พูดไม่ได้มาตั้งแต่เกิด ที่ผ่านมาได้พาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์แต่ไม่หาย เพราะลูกชายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย พ่อกับแม่ต้องผลัดเปลี่ยนกันดูแลตลอดเวลา หากคนใดคนหนึ่งออกไปทำงานอีกคนต้องอยู่ดูแลลูก เพราะความเป็นห่วง ต้องคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ และป้อนยา ทุกวันนี้ก็อาศัยเงินเบี้ยคนพิการของน้องดามเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย เพราะครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้ไม่แน่นอน บางวันสามีต้องออกไปหาปลา งมหอยตามคลองน้ำใกล้หมู่บ้านมาเป็นอาหาร ข้าวสารก็ต้องเซ็นเขามาก่อน เมื่อมีเงินจึงนำไปจ่าย
นางหวานเล่าต่อว่า จะพาน้องดามไปโรงพยาบาลแต่ละครั้งก็ลำบาก ต้องยืมเงินเพื่อนบ้านเป็นค่ารถ และเดินทางก็ไม่สะดวก เนื่องจากน้องดามตัวโตต้องอุ้มอยู่ตลอดเวลา รู้สึกสงสารลูกที่เกิดมาพิการ ทุกวันนี้น้องดามป่วยหนักขึ้น แขนขาเกร็ง มีอาการชักบ่อยครั้ง ทำให้กินข้าวได้น้อย จึงอยากวอนขอความเมตตาจากผู้ที่ใจบุญช่วยเหลือ
นางกรรณิการ์ ศิริเวช สมาชิก ส.อบต.หัวฝาย อ.แคนดง กล่าวว่า เห็นครอบครัวนี้แล้วรู้สึกเวทนาสงสาร เพราะพ่อแม่ไม่มีอาชีพแน่นอนแล้วลูกก็มาพิการอีก ทำให้พ่อแม่ต้องผลัดเปลี่ยนกันออกไปรับจ้าง เพราะอีกคนต้องอยู่ดูแลลูก อยู่ในสภาพเช่นนี้มานานกว่า 10 ปี
จึงขอวิงวอนให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัว หรือนำน้องดามไปรักษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ เพราะทาง อบต.ก็ช่วยได้เพียงซ่อมแซมบ้านที่มีสภาพผุพัง และยกพื้นขึ้นไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมตามงบประมาณที่มีเท่านั้น
หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือครอบครัวน้องดาม สามารถบริจาคได้ที่หมายเลขบัญชี020041208247 ชื่อบัญชี นางหวาน ยีรัมย์ เพื่อผู้เยาว์ ด.ช.ชวลิต พานดวงแก้ว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาแคนดง