รันทด! แม่เลี้ยงลูกป่วยโรคประหลาด ประกันสังคมกาฬสินธุ์เมินจ่ายช่วยเหลือ

กาฬสินธุ์ - สุดรันทด! แม่ชาวกาฬสินธุ์ออกหาปลา-ขุดมันขาย หาเงินเลี้ยง-รักษาลูกสาวพิการป่วยเป็นโรคประหลาด ลุกนั่งชักกระตุกล้มหัวฟาดพื้นตลอดเวลา ขณะประกันสังคมเมินจ่ายเงินช่วยเหลือทุพพลภาพ อ้างรอผู้ว่าฯเซ็นเอกสาร วอนหน่วยงานและผู้ใจบุญช่วยเหลือ



วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางคำฮู้ พันธะเสน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 2 บ้านจุมจัง ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ว่ามีฐานะยากจน และต้องเลี้ยงลูกสาวที่พิการป่วยเป็นโรคประหลาดเกี่ยวกับสมอง ทำให้ลูกสาวนอนและนั่งชักกระตุก ล้มลุกคลุกคลานหัวฟาดพื้นเป็นประจำ จนต้องสวมหมวกกันน็อกป้องกันอยู่ตลอดเวลา

ที่ผ่านมาได้ทำเรื่องขอความช่วยเหลือไปยังประกันสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นผู้ทุพพลภาพหรือผู้พิการนานกว่า 9 เดือนแล้ว แต่กลับไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ไม่มีเงินใช้จ่าย เพราะนอกจากจะต้องเลี้ยงลูกพิการแล้ว ยังต้องเลี้ยงดูแม่ที่อายุ 85 ปีอีกด้วย ทุกวันนี้ต้องออกไปขุดมันและหาปลาตามทุ่งนามาเลี้ยงชีวิตไปวันๆ ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานทางราชการ หรือท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านมีสภาพทรุดโทรม พบนางคำฮู้ และนางปัด เหล่าสุภาพ อายุ 85 ปี มารดา กำลังช่วยกันป้อนข้าวป้อนน้ำนางสาวภัชรา พันธะเสน อายุ 28 ปี หรือน้องนุ้ย ซึ่งเป็นลูกสาวของนางคำฮู้ โดยระหว่างการป้อนข้าวน้องนุ้ยที่กำลังนอนอยู่พยายามลุกนั่ง พร้อมกับมีอาการชักกระตุก ล้มลุกคลุกคลาน หัวฟาดพื้นไปทั่วบริเวณห้องโถง ทำให้หัวบวม และมีแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง จนผู้เป็นแม่ต้องนำหมวกกันน็อกมาสวมให้เพื่อป้องกันไม่ให้หัวกระแทกพื้น และสมองได้รับความกระทบกระเทือน สร้างความน่าเวทนาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

นางคำฮู้เล่าว่า มีลูก 3 คน คนโตและคนเล็กเป็นผู้ชาย มีครอบครัวไปแล้ว และไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ส่วนสามีเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา น้องนุ้ยเป็นลูกคนกลาง ก่อนหน้านี้ตนกับน้องนุ้ยได้เข้าไปทำงานรับจ้างบริษัทเอกชนในกรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อ 4 ปีก่อน น้องนุ้ยเริ่มป่วยเป็นโรคประหลาด เริ่มแรกมีอาการปากเปี้ยว จากนั้นก็มีเดินล้มลุกคลุกคลาน เหมือนแขนขาไม่มีแรงจนต้องออกจากงาน

ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมกราคม 2557 น้องนุ้ยอาการหนักขึ้น ไม่สามารถเดินหรือนั่งได้ แขน ขาลีบ พร้อมกับมีอาการชักกระตุก ล้มลุกคลุกคลานหัวฟาดพื้นอยู่ตลอดเวลา เพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนหัวปูดบวม ร่างกายถลอกเป็นแผลหลายแห่ง ต้องสวมหมวกกันน็อกตลอดเวลา เพื่อป้องกันหัวกระแทกพื้น

ก่อนหน้านี้พาไปรักษาในโรงพยาบาลหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ แต่ก็ไม่สามารถรักษาได้ กลับมีอาการทรุดหนักกว่าเดิม โดยแพทย์แจ้งว่าไม่สามารถบอกได้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร ระบุได้เพียงว่าเป็นโรคเกี่ยวกับสมอง มีอาการทางสมองร่วมกับมีอาการเคลื่อนไหวผิดปกติตลอดเวลา เพียงแต่ให้ยาลดการเคลื่อนไหวผิดปกติได้เท่านั้น

นางคำฮู้เล่าว่า หลังจากลูกสาวป่วยเป็นโรคประหลาดดังกล่าว จึงไปยื่นเรื่องที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเมื่อต้นเดือนมกราคม 2557 เพื่อขอเป็นบุคคลทุพพลภาพหรือพิการ พร้อมจ่ายเงินค่าประกันสังคมทุกเดือน เดือนละ 432 บาท ซึ่งจะได้เงินช่วยเหลือครึ่งหนึ่งของเงินเดือน โดยตอนทำงานน้องนุ้ยมีเงินเดือน 7,122 บาท จะได้ประมาณ 3,561 บาท เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวก็ทำประกันสังคมไว้ ทั้งนี้ที่ไปยื่นเรื่องเนื่องจากต้องการเงินมาเป็นค่ารักษา ค่ารถไปโรงพยาบาล และค่าใช้จ่ายในครอบครัว

ปัจจุบันเวลาผ่านมานานกว่า 9 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือบุคคลทุพพลภาพจากประกันสังคมแม้แต่บาทเดียว สอบถามเจ้าหน้าที่ไปหลายสิบครั้ง ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง ล่าสุดบอกว่า รอผู้ว่าราชการจังหวัดเซ็นอนุมัติ ซึ่งไม่ทราบว่าทำไมเเรื่องจึงช้าขนาดนี้

"ทุกวันนี้ต้องนอนดึกและตื่นตั้งแต่ 3 เพื่อออกไปหาปลาตามทุ่งนา และไปขุดมันตามหัวไร่ปลายนา มาทำอาหารและนำไปขาย ได้ครั้งละ 60-100 บาท มาซื้อข้าวสารเลี้ยงลูก และแม่วัย 85 ปี ชีวิตยากลำบากมาก แต่เห็นสภาพลูกก็ต้องอดทน เพราะสงสารลูก ไม่อยากให้ลูกอดตาย หากเป็นไปได้ยอมป่วยหรือตายแทนลูก แต่ที่ไม่เข้าใจ คือ เรื่องเงินทุพพลภาพของประกันสังคม ทำไมไม่ยอมจ่ายให้สักที เพราะจะนำมาเป็นค่ารักษาและเลี้ยงชีวิต อยากให้เจ้าหน้าที่มาดูสภาพลูกสาวว่าน่าสงสารแค่ไหน"