จันทบุรี - จังหวัดจันทบุรี ประชุมผู้ประกอบร้านอาหาร ร้านค้า ปรับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว หลังมีนักท่องเที่ยวโพสต์ลงสังคมออนไลน์ว่า พ่อค้าแม่ค้าเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ส่งผลกระทบต่อจังหวัด
จากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา และไม่ประทับใจเรื่องที่จอดรถ อาหารแพง ของหาย และกล่าวหาว่าทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีส่วนรู้เห็นกับพ่อค้าแม่ค้าเอาเปรียบนักท่องเที่ยว โดยเขียนระบายลงในพันทิป ดอทคอม ว่า
“ใครที่จะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วนะคะ วันนี้ จขกท.มีเรื่องราวที่ไปเจอมา ซึ่งมันทำให้เสียความรู้สึกและแย่มากๆ สำหรับการไปเที่ยวน้ำตก ที่ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปถึงจันทบุรี นานถึง 4 ชม. แต่ต้องมาเจอเรื่องที่ไม่น่าประทับใจในการบริการของพ่อค้าแม่ค้า และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลน้ำตกพลิ้ว เมื่อ จขกท.เดินทางไปถึงน้ำตกพลิ้ว สิ่งแรกที่ชอบสุดๆ เลยคือ บรรยากาศโดยรอบ พอขับรถเข้าไปถึงบริเวณทางเข้าประตู้น้ำตก ก็มีพ่อค้าคนหนึ่งเดินมาขวางถนน เน้นนะคะ ว่าขวางถนน ทั้งคันรถก็งงกันพอลดกระจกรถลง คุณพ่อค้าก็บอกกับพวกเราว่าจอดฟรีครับ ข้างบนเจ้าหน้าที่เค้าไม่ให้เอารถขึ้นไปถ้าไม่ไปค้างคืน จอดที่นี้ได้เลยครับเราดูแลให้ฟรี
พวกเพื่อนๆ ของ จขกท.ก็เลี้ยวรถเข้าไปด้วยความงงๆ เนื่องจากพี่แกเล่นยืนขวางถนน แบบไม่ให้ไปไหน พอเลี้ยวรถเข้าไปจอด พี่แกก็พูดขึ้นว่า ให้ที่จอดรถแล้วช่วยซื้ออาหารขึ้นไปกินด้วยนะครับ...อืม ด้วยความที่เกรงใจก็ซื้อเจ้าคะ รายการอาหารข้าวเหนียว 5 ห่อ ส้มตำปูปลาร้า 1 น้ำตกหมู 1 เป๊บซี่ 1 น้ำเปล่า 2 ขวด น้ำแข็ง 1 กระติก ไก่ย่าง 2 ไม้ ราคารวม 515 บาทถ้วน แต่พี่แกให้ยืมตะกร้า และกระติกน้ำแข็งขึ้นไปด้วย แต่เราก็โอเคๆ ราคาอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวคงเป็นเรื่องปกติ และพี่แกก็พูดทิ้งท้ายไว้ว่า อย่าลืมเอาตะกร้ากับกระติกน้ำลงมาด้วยนะ” [น้ำเสียงคุณพ่อค้าเปลี่ยนไปนะเคอะ !!หรือคิดไปเองไม่รู้แฮะ]
แต่ประเด็นมันอยู่ที่ตรงนี้คะ พอเดินขึ้นไปที่น้ำตก พวกเราก็กินข้าว และฝากตะกร้าไว้ที่ชั้นวางของของเจ้าหน้าที่ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เอาของๆ เราขึ้นไปให้หมด ให้เหลือไว้แค่ของจากร้านค้าที่ซื้อมาหรือร้านค้าให้มาเท่านั้น [เสื่อที่อิฉันเอาต้องแบกไปด้วยหรือเจ้าคะ ด้วยความที่เป็นเด็กดี จขกท.และเพื่อนๆ ก็วางตะกร้ากับกระติกน้ำทิ้งไว้ และขึ้นไปเล่นน้ำอย่างสบายใจ จนเล่นน้ำเสร็จพวกเราก็เดินกลับมาที่ชั้นวางของเพื่อที่จะเอาตะกร้า และกระติกน้ำลงไปคืนและจะกลับบ้านกัน แต่พอเดินมาถึงชั้นวางของปรากฏว่า ของหายไป พวกเพื่อนๆ ก็เลยคิดว่าเจ้าของร้านน่าจะเก็บไปแล้ว ก็เลยเดินลงไปที่ร้าน ในระหว่างทาง จขกท.ก็พูดกับเพื่อนเล่นๆ ว่า พวกแกรู้สึกแปลกๆ ปะวะ ฉันว่านะ พอเราลงไปถึงร้านพี่แกก็จะถามว่ากระติกกับตะกร้าไปไหน 555 ตอนนั้นพูดขำๆ กันนะคะ พวกเพื่อนๆ ก็หัวเราะกัน
พอพวกเราเดินไปยังไม่ถึงหน้าร้านดีด้วยซ้ำ คุณพ่อค้าก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ พร้อมถามว่าตะกร้ากับกระติกไปไหนครับ เน้น! ก้มหน้าอยู่ขณะถาม ไม่ได้คิดไปเองนะเจ้าคะ แต่อิฉันสังเกตตั้งแต่มองเห็นพี่แกไกลๆ แล้ว อ้าว! พี่ไม่ได้เก็บลงมาเหรอคะ ไม่ครับ เอารถมอไซค์ผมขึ้นไปเอามาเลยครับ คือมันหาไม่เจออะคะพี่ เราเลยนึกว่าพี่เอาลงมาแล้ว ขับรถขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่ดูเลยครับ อืม...เพื่อนผู้ชายเราเลยขับรถขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่ และได้คำตอบว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ทราบครับ บอกว่าสงสัยคนอื่นหยิบผิดไป
สุดท้ายเราก็เสียตังค์ไปกับค่าปรับของกระติก และตะกร้าไป 150 บาท จขกท.ไม่ได้เสียดายเงิน 150 บาทนะคะ แต่คือของหายเจ้าหน้าที่ไม่เดือดร้อน หรือกระตือรือร้นเพื่อที่จะช่วยนักท่องเที่ยวเลย เสียความรู้สึกตรงนี้มากๆ เลยคะ อีกอย่างคือร้านค้าก็มีไม่กี่ร้านนะคะ ตะกร้าก็มีไม่กี่ร้าน ถ้าลูกค้าหยิบมาผิดจริงๆ พ่อค้าแม่ค้าคงเอาไปคืนที่ร้านกันเอง เพราะตะกร้าทุกใบมีการเขียนชื่อร้านไว้ที่ตะกร้า และกระติกไว้ ยังไงก็ฝากถึงคนที่อยากไปเที่ยว และกำลังจะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วด้วยคะ
ต่อมา นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ทราบเรื่องจึงได้สั่งการให้ นายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอแหลมสิงห์ นายชิษณุพงษ์ พรหมสัมฤทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ สภ.แหลมสิงห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชุมผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้า และร้านขายของที่ระลึกอย่างเร่งด่วน เพื่อปรับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดใหม่ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม คือ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว โดยจะจัดระเบียบทางเท้าที่พ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาวางขาย จนไม่มีทางเดิน ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากของที่ระลึกไม่ติดป้ายราคา และลานจอดรถที่มีการเก็บค่าจอดรถ
โดยกำหนดจะจัดระเบียบทางเท้า ร้านอาหาร ร้านค้า และร้านขายของฝากของที่ระลึก รวมถึงลานจอดรถที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วใหม่ทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.) ทั้งนี้ เพื่อกู้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกลับคืนมา สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือน