กาญจนบุรี - ชาวบ้าน 2 ตำบลในอำเภอไทรโยค กาญจนบุรี กว่า 100 คน แห่ขึ้นโรงพักแจ้งจับสาวเมืองเพชรบุรี แสบเปิดบริการเป็นตัวแทนรับชำระไฟฟ้า ก่อนเชิดเงินชาวบ้านหนีกว่า 2 ล้านบาท ความแตกถึงหูชาวบ้านหลังทางการไฟฟ้ามีหนังสือแจ้งหนี้ค้างจ่ายกระแสไฟ ด้าน “ผจก.การไฟฟ้าไทรโยค” พร้อมให้ชาวบ้านผ่อนผัน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 ก.ย.) น.ส.ศีริกาญจน์ บัวการกิจ นางธนันท์ธิดา บุดวัน นางเพ็ญศิริ อ้อนทอง พร้อมชาวบ้านจาก ต.วังกระแจะ ต.ท่าเสา ต.ไทรโยค อ.ทรโยค จ.กาญจนบุรี กว่า 100 ราย เข้าพบ ร.ต.ท.อภิชัย พุ่มชัย พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นางจิณณ์กมล หรือแอม เกิดมาก อายุ 42 ปี ชาว จ.เพชรบุรี หลังจากเปิดให้บริการเป็นตัวแทนจ่ายค่าไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ไทรโยค และได้เชิดเงินของชาวบ้านหนีไปรวมกันมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
น.ส.ศีริกาญจน์ บัวการกิจ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144/1 หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายของอยู่ที่ตลาดท่าเสา อ.ไทรโยค ก่อนหน้านั้นตนและชาวบ้านจะไปจ่ายค่าฟ้าไฟที่สำนักงานการไฟฟ้าอำเภอไทรโยคทุกเดือน เพราะสำนักงานการไฟฟ้าตั้งอยู่ในพื้นที่ ต่อมา ประมาณ 1 ปีเศษ สำนักงานการไฟฟ้าได้ย้ายไปอยู่ในพื้นที่หมู่ 9 บ้านไตรรัตน์ ต.ลุ่มสุ่ม ที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายกิโลเมตร ทำให้การเดินทางไปชำระค่าไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ต่อมา พบว่ามีคนมาเช่าห้องเปิดให้บริการเป็นตัวแทนชำระค่าไฟฟ้า โดยตกแต่งด้านหน้ามีสัญลักษณ์ของการไฟฟ้าทุกอย่าง อีกทั้งมีพนักงานของการไฟฟ้าไทรโยคที่เป็นเพื่อนกับคนที่มาเช่าห้องเปิดออฟฟิศ ชาวบ้านทุกคนต่างก็รู้จักดี และชาวบ้านเป็นจำนวนมากเข้าใจว่าเป็นออฟฟิศของการไฟฟ้าไทรโยค จึงมาใช้บริการด้วยความไว้ใจ ตั้งแต่สำนักงานการไฟฟ้าย้ายไป การจ่ายเงินก็ไม่เคยมีปัญหา แต่เมื่อมาถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านได้ไปจ่ายค่าไฟตามปกติ
แต่ครั้งนี้ทุกคนไม่ได้รับบิลใบเสร็จจากการไฟฟ้าของเดือนที่ผ่านมาเหมือนทุกครั้ง จนกระทั่งทุกคนไปจ่ายค่าไฟเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รวมจ่ายค่าไฟฟ้าไปแล้ว 2 เดือน แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ได้บิลใบเสร็จ ทุกคนเข้าใจว่าเดี๋ยวก็คงได้ใบเสร็จ
จนกระทั่งไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาวบ้านทุกครอบครัวที่มาจ่ายค่าไฟฟ้าที่ออฟฟิศดังกล่าว ได้รับบิลค่าไฟจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยระบุว่าค้างจ่ายค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 2 เดือน คือเดือน ก.ค.และเดือน ส.ค.ทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ว่าเราจ่ายค่าไฟฟ้าทุกเดือน ทำไมยังมีการแจ้งว่าเราค้างค่าไฟฟ้า 2 เดือน และบางครอบครัวมีใบแจ้งให้ทราบว่า ให้มาชำระค่าไฟภายในวันนี้ หากไมมาชำระจะถูกตัดไฟ เมื่อชาวบ้านทุกครอบครัวพบปัญหาเดียวกัน จึงได้ไปดูที่ออฟฟิศ
ปรากฏว่า คนเช่าได้นำป้ายออก และหายตัวไป พวกเราจึงเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นางแอม คนที่เปิดห้องเช่าบริการชำระค่าไฟดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าเงินที่ชาวบ้านสูญเสียรวมกันมากกว่า 2 ล้านบาท และขอให้ผู้จัดการการไฟฟ้าอำเภอไทรโยค มาแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านด้วย
ด้านนายสาโรจน์ แช่มชอย ผู้จัดการการไฟฟ้า สาขาไทรโยค เปิดเผยว่า ครั้งแรกที่ตนมารับตำแหน่งก็ได้รับการสอบถามจากการไฟฟ้าจังหวัดนครปฐมว่า ทำไมการไฟฟ้าอำเภอไทรโยคจึงมีการค้างจ่ายค่าไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ตนจึงทำการตรวจสอบ ก็พบว่า ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งมีการค้างจ่ายค่าไฟฟ้าเป็นจำนวนมากจริง บางรายค้างจ่ายค่าไฟฟ้าถึง 5 บิล จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าตรวจสอบ และให้ลงพื้นที่เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าที่มีคนค้างจ่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งการแก้ไขก็เป็นไปด้วยดี
แต่มาถึงเดือนกรกฎาคม พบว่า มีการค้างจ่ายค่าไฟฟ้าเป็นเงินจำนวนสูงถึง 414,412.85 บาท และเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีการค้างจ่ายเพิ่มอีก 1,713,595 บาท การไฟฟ้าจึงส่งใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าไปถึงแต่ละครัวเรือน และบางครอบครัวจะต้องถูกตัดกระแสไฟฟ้าเพราะค้างจ่ายหลายบิล และตนมาทราบภายหลังว่า ชาวบ้านเป็นจำนวนมากได้ไปจ่ายค่าไฟฟ้าที่สถานที่ดังกล่าว และได้รับทราบว่ามีพนักงานของการไฟฟ้าของเราเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งตนก็ได้เรียกมาสอบถาม ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
แต่ยอมรับว่ารู้จักกับผู้หญิงคนดังกล่าวมาได้ปีกว่า หลังจากมีการเปิดออฟฟิศให้บริการชำระค่าไฟฟ้าก็ได้ไปเที่ยวหาเป็นประจำ ตนจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไป และจากการตรวจสอบแล้วพบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวได้ปิดออฟฟิษศ และหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ก็จะประสานให้มาพบ และจะผ่อนผันให้ทุกครอบครัวผ่อนชำระจ่ายค่าไฟฟ้าให้ ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร
ด้าน ร.ต.ท.อภิชัย พุ่มชัย พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเข้าที่ผ่านมามีชาวบ้านเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นจำนวนมาก แต่ได้ลงบันทึกประจำวันได้ประมาณ 14 คน เนื่องจากบางรายรายชื่อ และที่อยู่ที่ระบุในใบจ่ายค่าไฟฟ้าไม่ตรงกัน จึงไม่สามารถรับแจ้งความได้ ซึ่งก็ได้แนะนำข้อมูลเบื้องต้นให้ทุกคนทราบแล้ว และขณะนี้มีชาวบ้านเริ่มทยอยมาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง และหลังจากชาวบ้านได้แจ้งความร้องทุกข์ครบทุกรายเมื่อไหร่ ก็จะส่งหมายเรียกให้นางจิณณ์กมล หรือแอม เกิดมาก ชาวจังหวัดเพขรบุรี มาพบ และหากเรียกไปแล้ว 2 ครั้งไม่มา ก็จะต้องขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป
