เลย - มอบเงินกองทุนช้างเฉียด 5 แสนบาท ชดเชยความเสียหายหลังช้างป่าเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าภูหลวงออกไปหากินทำลายพืชสวนไร่นาของชาวบ้าน เผยจำนวนช้างป่าเพิ่มขึ้น 105 ตัวจากเดิมมี 85 ตัว ทำให้แหล่งอาหารในป่าไม่เพียงพอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (15 ก.ย.) ที่โครงการฟื้นฟูอาหารช้างป่าภูหลวง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านน้ำค้อใหญ่ ต.ทรายขาว อ.วังสะพุง จ.เลย นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้เดินทางเป็นประธานการจ่ายเงินกองทุนช่วยเหลืออาหารช้างป่าแห่งประเทศไทยแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าจำนวน 108 ราย
นายพนม พงษ์สุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า จ.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงออกจากป่าหาแหล่งอาหารแล้วไปทำลายพืชสวนไร่นาของชาวบ้านรอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูหลวง จ.เลย จนได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำทุกปี
จากการศึกษาของคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่าเกิดจากการสูญเสียพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นแนวกันชนตามธรรมชาติบริเวณที่เป็นรอยต่อกับเขตรักษาฯ กับพื้นที่ทำกินของประชาชน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่งเสริมเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในท้องถิ่น เช่น การปลูกต้นยางพารา ไร่มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพด และทำนา
อย่างไรก็ตาม นายพนมระบุว่า การเพิ่มจำนวนของช้างป่าจากเดิมมีอยู่ประมาณ 85 ตัว เพิ่มเป็น 105 ตัวในปัจจุบันทำให้ช้างป่าเหล่านี้ต้องการแหล่งอาหารเพิ่มขึ้น เพราะการที่ชาวบ้านได้ปล่อยสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย เข้าไปแย่งแหล่งอาหารของสัตว์ป่าทำให้ช้างป่าขาดแหล่งอาหาร
ขณะที่แนวป้องกันช้างป่า เช่น รั้วไฟฟ้า ที่กั้นล้อมรอบเป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร ที่ใช้งานมานานกว่า 12 ปีกำลังหมดสภาพลง และช้างป่าเองก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มักออกมาหาแหล่งอาหารในพื้นที่เรือกสวนไร่นาตามเชิงเขา
จากสภาพปัญหาข้างต้นจึงได้มีการจัดตั้งงบประมาณเพื่อชดเชยค่าความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาทำลายพืชสวน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะกรรมการตรวจสอบค่าความเสียหายพบราษฎรมีจำนวน 168 ราย ต้องได้รับค่าชดเชยจำนวน 108 ราย 495,750 บาท
ส่วนอีกจำนวน 66 รายไม่เข้าหลักเกณฑ์กองทุนช่วยเหลืออาหารช้างป่าแห่งประเทศไทย เนื่องจากไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงว่าเป็นเจ้าของที่ทำกินที่ช้างลงมาทำลาย