พระนครศรีอยุธยา - ผู้ว่าฯ อยุธยา ยังไม่มั่นใจสถานการณ์น้ำ สั่งทุกพื้นที่ริมแม่น้ำเฝ้าระวังใกล้ชิด หลังไต้ฝุ่น “คัลแมกี” กำลังเคลื่อนตัวไปยังเกาะไหหลำ และจะขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน 17 ก.ย. ซึ่งจะทำให้ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากช่วง 16-18 ก.ย. ขณะที่ทหารรวมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย เร่งขจัดผักตบชวาภายในคลองแหล่งน้ำชุมชนเพื่อเปิดทางน้ำได้ไหลสะดวกขึ้น
วันนี้ (15 ก.ย.) นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) พระนครศรีอยุธยา เผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า จากรายงานในช่วงเช้าวันนี้พบว่าเขื่อนเจ้าพระยา มีการระบายน้ำลดลง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไหลผ่านในเขตพื้นที่ อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บางบาล มีระดับน้ำลดลง 15-20 ซ.ม. แต่บางพื้นที่ที่น้ำยังท่วมขัง เช่น ต.หัวเวียง บ้านกระทุ่ม อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ ประชาชนยังใช้เรือสัญจรออกจากบ้านไปขึ้นถนน เนื่องจากน้ำท่วมใต้ถุนบ้าน แต่มีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สั่งให้ทุกพื้นที่ริมแม่น้ำยังคงเฝ้าระวัง หากเกิดพายุ หรือฝนตกอีกก็อาจจะยังส่งผลต่อบ้านเรือนริมแม่น้ำได้ และจากการสอบถามไปยัง น.ส.ปทุมพร สัญญทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.หัวเวียง อ.เสนา ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำที่สุดใน อ.เสนา ทราบว่า เป็นพื้นที่ที่ต่ำมาก การที่น้ำไหลเอ่อท่วมใต้ถุนบ้านเป็นเรื่องปกติ ประชาชนใช้เรือสัญจรไปมาจากบ้านไปยังถนนไม่ใช่เรื่องเดือดร้อน เป็นภาวะน้ำล้นตลิ่งตามฤดูกาล ซึ่งหากเกิดภาวะน้ำท่วมจริงๆ ทุ่งนาในเขต อ.เสนา และ อ.ผักไห่ ก็ยังรับน้ำได้จำนวนมาก
“จากการสำรวจยังพบว่า ระดับน้ำในขณะนี้เมื่อเทียบกับปี 2554 แล้ว ระดับน้ำยังต่ำกว่า 2 เมตร อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์จนถึงเดือนสิบสอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงที่น้ำมากที่สุด” นายอุดมศักดิ์ กล่าว
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (15 ก.ย.) ว่า พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (Kalmaegi) ได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำประมาณ 800 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 18.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./ชม.
คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนที่ไปยังเกาะไหหลำ ประเทศจีน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 17 ก.ย.57 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย.57 โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย.นี้
วันเดียวกัน ร.อ.ชาญณรงค์ ดีสุวรรณ หัวหน้าชุดกิจการพลเรือน กองพันทหารม้าที่ 25 รักษาพระองศ์ ได้รวมกับหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 7 และ 8 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 100 คน รวมกันลอกคูคลองเก็บกำจัดผักตบชวาที่มีจำนวนมากภายในคลองยายนกยาง ซึ่งเป็นคลองอยู่ติดชุมชน
รวมถึงแหล่งทางน้ำที่ติดกันเป็นคลองสายเล็กผ่านชุมชน ซึ่งพบว่า มีผักตบชวา และวัชพืชจำนวนมาก โดยกำลังทหาร รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการได้นำรถแบ็กโฮ รถขยะ รถบรรทุก เจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องตัดหญ้า และเรือ ลงมือตักเก็บตัดวัชพืชทั้งหมดที่อยู่ภายในลำคลอง เพื่อทำให้น้ำได้ไหลผ่านสะดวกยิ่งขึ้น และยังเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้การระบายของน้ำไหลผ่านสะดวกขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้กรมด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนแล้วว่า พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” ที่กำลังเคลื่อนตัวไปยังเกาะไหหลำ ประเทศจีน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 17 ก.ย.57 ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทย มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย.57