ศรีสะเกษ- “หมวดวิชัย” นักปลูกต้นไม้ชื่อดังของไทย เผยปลูกไปแล้ว 4 ล้านต้น ลั่นยังบ้าปลูกต้นไม้ต่อไปจนกว่าจะตายจากโลกนี้ ล่าสุดเร่งรณรงค์โครงการ “คันแททองคำ” ส่งเสริมปลูกต้นไม้มูลค่าสูงตามคันนาในท้องทุ่งเพื่อให้ชาวนามีรายได้ในอนาคต
วันนี้ (14 ก.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กลางทุ่งนาบ้านตูม ต.ตูม อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ อายุ 69 ปี นักปลูกต้นไม้ชื่อดังของประเทศไทย กล่าวขณะที่กำลังนำต้นพะยูงไปปลูกตามคันนาในที่นาของชาวบ้านในเขต ต.ตูม ว่า เมื่อปี 2548 ตนได้ปลูกต้นไม้ไปแล้วครบ 2 ล้านต้น และผ่านมาจนถึงขณะนี้ได้ปลูกต้นไม้ไปแล้วรวมจำนวน 4 ล้านต้น และยังคงบ้าปลูกต้นไม้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะตายไปจากโลกนี้ โดยปลูกกระจายอยู่ในเขต อ.ปรางค์กู่ และอำเภอใกล้เคียง คือ อ.ขุขันธ์ อ.อุทุมพรพิสัย อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ
สำหรับต้นไม้ที่เน้นปลูกมากในขณะนี้คือ ต้นพะยูง ยางนา พะยอม และตะเคียน เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นแก่แผ่นดิน เนื่องจากตนถือว่าการปลูกต้นไม้เป็นการทำบุญที่ถูกต้องที่สุดเพราะเป็นมรดกถึงลูกหลานอย่างยั่งยืนตลอดกาล อีกทั้งเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วย
ร.ต.ต.วิชัยกล่าวต่อว่า ตนได้วางวิสัยทัศน์ให้จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดนำร่อง “โครงการยางนาคืนทุ่ง พะยูงคืนถิ่น” โดยเน้นให้ชาวนาทุกครอบครัวปลูกต้นยางนาและปลูกต้นพะยูงในที่ดินของตัวเอง เน้นให้ชุมชนทุกชุมชนปลูกไม้ตระกูลยาง เช่น กะบาก ยางนา พะยอม ตะเคียน และขณะนี้ได้ร่วมกับ นายอุดมการณ์ บัวเกษ อธิการบดีมหาวิชชาลัยธรรมชาติและคณะ จัดทำโครงการคันแททองคำ หรือคันนาทองคำ โดยการส่งเสริมปลูกต้นไม้ตามคันนาในท้องนา เช่น ไม้พะยูง ไม้ยางนา ไม้ตะเคียน
การปลูกไม้เหล่านี้ตามคันนา เมื่อหลายปีผ่านไปต้นไม้ที่ปลูกไว้โตขึ้นสามารถตัดขายนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะไม้พะยูงที่มีราคาแพงมาก การปลูกต้นไม้แบบนี้เปรียบเสมือนการฝากเงินไว้ในกระปุกออมสินยิ่งนานไปเงินก็มีมากขึ้น เมื่อต้นไม้โตขึ้นสามารถขายได้เงินมาก จะทำให้ชาวนาเจ้าของที่นามีรายได้สามารถนำเงินที่ได้จากการปลูกต้นไม้ตามคันนาไปขายซื้อทองคำได้ ซึ่งเป็นที่มาของโครงการคันแททองคำ
“ขณะนี้กำลังมีการรณรงค์โครงการนี้ไปทั่วทั้ง จ.ศรีสะเกษ และจังหวัดใกล้เคียง มีชาวนาเจ้าของที่นามาติดต่อขอกล้าไม้พะยูงไปปลูกแล้วจำนวนมาก” ร.ต.ต.วิชัย กล่าวในตอนท้าย