เชียงราย - กลุ่มทุนจีนเดินหน้าปลุกปั้น “เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมคำ” ไม่หยุด เผย 7 ปีเทงบไปแล้วร่วม 2 หมื่นล้าน ปีนี้ผุดอีก 3 โครงการยักษ์ รวมทั้ง “เกาะดอนซาว” ด้วย
วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการสัมมนาเรื่อง “เผยโฉมศักยภาพการค้าและการท่องเที่ยว จ.เชียงราย-แขวงบ่อแก้ว” ที่กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสมาคมไทย-ลาว เพื่อมิตรภาพ ห้องเชียงแสน อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ-เอกชนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า สามเหลี่ยมทองคำ ที่ดำเนินการโดยกลุ่มทุนดอกงิ้วคำ ภายใต้ชื่อโครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone กำลังมีการพัฒนาต่อเนื่อง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ล่าสุดกำลังมีการก่อสร้างสนามบินด้วย
ท่านสุกขะ เหรียนทองคำ รองหัวหน้าคณะบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กล่าวว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำของกลุ่มบริษัทดอกงิ้วคำได้รับสัมปทานจากรัฐบาล สปป.ลาว เป็นระยะเวลา 99 ปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2553 เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,000 เฮกตาร์ หรือประมาณ 6,000 ไร่ (1 เฮกตาร์เท่ากับ 6 ไร่ 1 งาน) แต่มีพื้นที่ที่เป็นโครงการพัฒนาจริงๆ เพียงประมาณ 3,000 เฮกตาร์
หลังจากดำเนินการมาได้ประมาณ 7 ปีพบว่าเป็นไปตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ แม้อาจจะไม่ถึงขั้นเต็ม 100% แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามเป้า มีการใช้งบประมาณพัฒนาไปแล้วจำนวน 638 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19,140 ล้านบาท) เป็นงบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเสียประมาณ 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การลงทุนประมาณ 347 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เหลือเป็นด้านการให้บริการต่างๆ
ท่านสุกขะกล่าวอีกว่า ในปี 2558 จะมีโครงการก่อสร้างอีก 3 โครงการใหญ่ คือ ก่อสร้างสนามบิน ซึ่งไม่ใช่สนามบินที่ลงทุนโดยเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยตรง แต่รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ เพียงแต่ใช้สถานที่ภายในเขตเศรษฐกิจฯ นี้เท่านั้น เนื่องจากสนามบินปัจจุบันที่เมืองห้วยทรายอยู่ในภูมิประเทศที่จะซ่อมแซมหรือขยายตัวไม่ได้ โดยจะเริ่มก่อสร้างหลังฤดูฝนนี้เป็นต้นไป จะเป็นสนามบินที่มีหลุมจอด 4 หลุม สามารถรองรับเครื่องบินโบอิ้ง 737 ได้ ใช้เวลาก่อสร้าง 24 เดือนหรือ 2 ปีก็แล้วเสร็จ
นอกจากนี้ยังจะมีการก่อสร้างสนามกอล์ฟขนาด 36 หลุม โดยจะเริ่มสร้างหลังฤดูฝนนี้เช่นกัน และโครงการพัฒนาเกาะดอนซาวเพื่อให้เป็นแหล่งวัฒนธรรม โดยปีนี้จะจัดงานดอกงิ้วบานเป็นครั้งที่ 14 ด้วย
ท่านสุกขะกล่าวอีกว่า ปัจจุบันเขตเศรษฐกิจพิเศษของเรายังเปิดให้กลุ่มทุนเข้าไปลงทุนภายใต้กิจการที่อนุญาตจำนวน 14 กิจการ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน กสิกรรม อุตสาหกรรมเบา ที่พักอาศัย การท่องเที่ยว ฯลฯ หรือพูดในภาพรวมคือ เกือบทุกกิจการ ยกเว้น 3 กิจการที่ไม่อนุญาตคือ กิจการที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ, กิจการที่กระทบต่อส่งแวดล้อม และกิจการที่กระทบต่อสุขภาพของประชาชน
“เราไม่ได้ปิดกั้นกลุ่มทุนอื่น แม้จะมีกลุ่มทุนที่ได้สัมปทานแล้วก็ตาม ยังต้องการผู้ลงทุนในกิจการอุตสาหกรรมเบา กิจการด้านวัฒนธรรม สาธารณสุข การแพทย์ การศึกษา มหาวิทยาลัย ฯลฯ อีกมาก ทั้งรูปแบบลงทุนเอง 100% และร่วมทุนกับผู้ได้รับสัมปทานมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งร่วมทุนกับรัฐบาล สปป.ลาว”
ท่านปะเสิด สีอักขะขัน หัวหน้าห้องการสถิติแผนการ แผนกอุตสาหกรรมและการค้า แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว กล่าวว่า ช่วง 4-5 ปีมานี้ สปป.ลาวได้เปลี่ยนแปลงกฎหมายส่งเสริมการลงทุนให้นักลงทุนใน-ต่างประเทศ ใช้หลักปฏิบัติเดียวกัน ทำให้การลงทุนไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ซึ่งหากวงเงินลงทุนไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทางท้องถิ่นสามารถอนุญาตได้เลย แต่ถ้ามากกว่านี้ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาล
ทั้งนี้ ปัจจุบันกิจการที่ต้องการการลงทุนคือ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มากกว่า 90 แห่ง ซึ่งหากผู้ประกอบการจะเข้าไปลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม ที่พัก ฯลฯ ก็ใช้เวลาขออนุญาตแค่ 5-10 วันเท่านั้น