ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทหาร ทภ.2 สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ เข้ารื้อถอนสำนักสงฆ์บุกรุกยึดครองที่สาธารณะประโยชน์ อ.ด่านขุนทด โคราช หลังศาลพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด ยึดคืนพื้นที่กว่า 1,300 ไร่ ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน หลังเป็นคดียืดเยื้อมานานกว่า 20 ปี
วันนี้ (10 ก.ย.) นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทด ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ตำรวจ และชาวบ้าน เข้าร่วมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างศาลาการเปรียญสำนักสงฆ์วะช่องโค หมู่ 3 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังมีคำสั่งศาลจังหวัดสีคิ้ว พิพากษาเป็นที่สิ้นสุด โดยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่บุกรุกก่อสร้างอยู่ในเขตที่สาธารณประโยชน์ บนเนื้อที่กว่า 1,300 ไร่ ซึ่งคดีดังกล่าวยืดเยื้อมายาวนานกว่า 20 ปี
นายศักดิ์สิทธิ์ นายอำเภอด่านขุนทด เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้เข้ามายึดครองที่สาธารณประโยชน์ และสร้างศาลาการเปรียญสำนักสงฆ์วะช่องโค แห่งนี้ขึ้นมาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งทางราชการได้ทำความเข้าใจต่อชาวบ้านแล้วว่าการเข้าทำการรื้อถอนของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามคำสั่งศาล และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันบนพื้นที่แห่งนี้
ส่วนวัสดุจากการรื้อของศาลาการเปรียญจะนำไปสร้างเป็นศาลาปฏิบัติธรรมแห่งใหม่ ที่วัดหนองกระเทียมเหนือ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมี พระครูสมุเกิด บุญฺญกาโม เป็นเจ้าอาวาสวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอนศาลาการเปรียญสำนักสงฆ์วะช่องโค ได้มีชาวบ้านกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยเข้ายื่นหนังสือคัดค้าน แต่เป็นไปด้วยความสงบไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้านในกลุ่มที่ยื่นหนังสือคัดค้านนั้นเป็นจำเลยในคดีบุกรุกยึดครองที่สาธารณประโยชน์ในพื้นที่นี้ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดสีคิ้ว