มุกดาหาร- รพ.มุกดาหาร เตือนประชาชนระวังโรคไวรัสตับอักเสบ เอ ที่มีแนวโน้มระบาดในช่วงฤดูฝนปีนี้ โดยใส่ใจต่อความสะอาดด้านอาหาร น้ำดื่ม และน้ำแข็ง ติดต่อจากการรับประทานอาหาร หรือน้ำดื่มที่มีเชื้อไวรัสนี้ปนเปื้อน เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีปลอดภัยจากโรค ควร “กินสุกใหม่ ร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ”
วันนี้ (10 ก.ย.) นายแพทย์ศุภชัย จรรยาผดุงพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค ได้ออกมาตรการเรื่องการป้องกันควบคุมโรคไวรัสตับอักเสบ เอ ที่มีแนวโน้มระบาดในช่วงฤดูฝนปีนี้ โดยใส่ใจต่อความสะอาด ด้านอาหาร น้ำดื่ม และน้ำแข็ง ติดต่อจากการรับประทานอาหาร หรือน้ำดื่มที่มีเชื้อไวรัสนี้ปนเปื้อน เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีปลอดภัยจากโรค ควร “กินสุกใหม่ ร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” และขอให้ผู้ปกครองที่ดูแลเด็กเล็กสังเกตอาการของบุตรหลาน
ทั้งนี้ หากพบมีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ให้รีบมาพบแพทย์ทันที หากปล่อยทิ้งไว้ไม่รับการรักษา ผู้ป่วยมีโอกาสที่ตับวาย และเสียชีวิตได้
โรคตับอักเสบ เอ เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดเอ การติดต่อเกิดจากการนำ หรือเชื้อเข้าสู่ร่างกายทางปาก เชื้อโรคอยู่ในอุจจาระของผู้ป่วย อาการป่วยมักเริ่มจากมีอาการไม่สบายเล็กน้อยประมาณ 1 สัปดาห์ เช่น มีไข้ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อย คลื่นไส้ อาเจียน หลังจากนั้น ปัสสาวะจะมีสีเข้ม ตัวเหลือง จุกแน่นบริเวณใต้ชายโครงขวา แน่นท้อง มีผื่นที่ผิวหนังโดยทั่วไปอาการต่างๆ จะทุเลาและหายไปภายใน 3-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจใช้เวลารักษานานหลายเดือน เมื่อผู้ป่วยหายจากโรคจะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต อาการแทรกซ้อนของโรคในผู้ป่วยบางราย ได้แก่ ตับวายเฉียบพลัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอ หากมีอาการเล็กน้อยสามารถหายได้เอง การรักษาเป็นเพียงการประคับประคอง และป้องกันมิให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การขาดน้ำ ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะเลือดออก และตับวาย โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการวัคซีนโดยสามารถให้ในเด็กอายุ 2 ปี ขึ้นไป จำนวน 2 ครั้ง ห่างกัน 6 เดือน ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นสามารถป้องกันได้นานมากกว่า 10 ปี
ส่วนในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จะไม่ให้วัคซีนดังกล่าว เพราะจะไปขัดขวางภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากแม่
ดังนั้น เพื่อป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอ ประชาชนควรให้ความสำคัญในการรักษาสุขอนามัยเป็นพิเศษตามมาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” เน้นการรับประทานอาหารที่ปรุงสุก ใหม่ สะอาด นอกจากนี้ ควรจัดให้มีการสุขาภิบาล กำจัดอุจจาระให้ถูกต้อง หากมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422