อ่างทอง/พระนครศรีอยุธยา - น้ำเจ้าพระยาผ่านอ่างทองสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ทางจังหวัดเร่งสร้างคันดินเชื่อมต่อเขื่อนบางแก้วรับมวลน้ำที่จะมาถึง ส่วนในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา น้ำเริ่มล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมใต้ถุนบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 และ 2 หมู่บ้านสามกอ ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา แล้ว
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่บริเวณคันคลองประตูน้ำบางแก้ว หมู่ 10 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการสร้างคันดินขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 300 เมตร เพื่อเชื่อมต่อระหว่างพนังกันน้ำและประตูน้ำบางแก้ว หลังดำเนินการก่อสร้างพนังกันน้ำบริเวณหมู่ 10 ต.บ้านอิฐ ยังไม่เสร็จหลังน้ำเจ้าพระยาไหลผ่านเข้าคลองบางแก้วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริเวณดังกล่าวเคยประสบปัญหาน้ำกัดเซาะคันดินทะลักเข้าหมู่บ้านเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการก่อสร้างพนังกันน้ำจึงนำดินมาถมเป็นสันเขื่อน เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้าหมู่บ้านอย่างเร่งด่วนแล้ว
สำหรับประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว ใช้ช่วยชะลอน้ำที่ไหลจากภาคเหนือเข้าสู่พื้นที่เขตภาคกลาง ป้องกันปริมาณน้ำที่ไหลจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมพื้นที่ จ.อ่างทอง เป็นโครงการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ทางด้านท้ายประตูระบายน้ำ ในเขต อ.เมือง จ.อ่างทอง และ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา และยังสามารถช่วยเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูแล้งอีกด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน จ.อ่างทอง เพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่สถานีชลมาตร C 7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง น้ำไหลผ่าน 1,063 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ที่ 5.09 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 เมตร ด้านพื้นที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่งแห่งแรกของ จ.อ่างทอง บริเวณหมู่ 6 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก นั้นเตรียมพร้อมรับสถานการณ์แล้ว
**น้ำเริ่มล้นตลิ่งท่วมใต้ถุนบ้านชาว “อ.เสนา”
ส่วนสถานการณ์น้ำตลิ่งในพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่บ้านสามกอ ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้น้ำได้ล้นเข้าท่วมพื้นที่ใต้ถุนบ้านเรือนประชาชนบ้างแล้ว โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ยังคงเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำ และติดตามประกาศปริมาณน้ำที่ทาง อบต.จะประกาศผ่านเสียงตามสายให้ทราบอย่างใกล้ชิด
ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บ้านแพน อ.เสนา ระบุว่า วันนี้จากการติดตามการรายงานสถานการณ์น้ำ อยู่ที่ 1,050 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่าปกติ ยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่หากระดับน้ำสูงถึง 1,300-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำจะล้นตลิ่งเอ่อเข้าท่วมมาถึงถนนทันที ซึ่งขณะนี้ก็ยังต้องติดตามประกาศจากทาง อบต.ทุกวัน
ขณะที่นายอำเภอเสนา ได้สั่งการให้ผู้ใหญ่บ้านถ่ายภาพบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำ เพื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังน้ำท่วมว่า ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด
ด้านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังคงระบายน้ำด้วยอัตราคงที่ 1,050 ลบ.ม./วินาที โดยรับน้ำเหนือจากจุดวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ ในอัตรา 1,304 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 12 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนระดับน้ำเหนือเขื่อนยังทรงตัวเท่าวานนี้ที่ 15.96 ม.รทก. ขณะที่น้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น 3 เซนติเมตร อยู่ที่ 11.65 ม.รทก.
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านใน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งบางรายได้เริ่มทยอยขนสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นวางเทินไว้บนที่สูง เพื่อให้พ้นน้ำหากมีเหตุการณ์น้ำล้นตลิ่ง แม้ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วง อ.มโนรมย์ จะยังต่ำกว่าตลิ่งกว่า 1 เมตรก็ตาม
นายฎรงศ์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 ชัยนาท เปิดเผยว่า ปริมาณการรับน้ำจากทางเหนือที่จุดวัด C.2 จ.นครสวรรค์ ในระยะนี้น่าจะเป็นจุดสูงสุดแล้วถ้าไม่มีฝนตกหนักเพิ่มเติมจากวันนี้ไปคาดว่าระดับน้ำจะค่อยๆ ลดระดับลง
**ปทุมธานีตั้งศูนย์ระวังสถานการณ์น้ำท่วม
ที่ จ.ปทุมะานี นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุทกภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ส่งผลให้น้ำทางตอนเหนือเริ่มไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายอย่างหนักนั้น ซึ่งในส่วนของพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะจังหวัดปทุมธานี ได้มีการจัดตั้งศูนย์เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมจังหวัดปทุมธานี ขึ้น โดยมีการจัดศูนย์อำนวยการเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.
ขณะนี้หลังจากที่ตนเอง พร้อมด้วยชลประทานจังหวัดปทุมธานี ปภ.จังหวัดปทุมธานี ได้ลงสำรวจบริเวณแนวริมฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา และประตูระบายน้ำต่างในเขตอำเภอสามโคก พบว่าปริมาณในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 20 ซม.ซึ่งถือว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤต โดยทางกรมชลประทาน ได้แจ้งมาทางจังหวัดปทุมธานีว่า เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้เร่งระบายน้ำออกมาอยู่ที่ 990 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จึงยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ เนื่องจากว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวัดปทุมธานี ยังสามารถรับน้ำเหนือได้อีกมาก
แต่หากว่าทางเขื่อนเจ้าพระยานั้นมีการปล่อยน้ำออกมาจำนวนที่ 2,000 ลูกบาศเมตร/วินาที ทางจังหวัดปทุมธานี จะเร่งแจ้งเตือนประชาชนให้เร่งข่นย้ายข้าวของขึ้นที่สูงโดยเร็วที่สุดอีกทั้งจะแจ้งการประชาสัมพันธ์ต่อประชาชนให้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป
**อุตุฯ เตือนยังมีฝนตกทั่วไป
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ว่า ร่องมรสุมกำลังอ่อนได้เลื่อนไปพาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลงจากช่วงที่ผ่านมา สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้ และภาคตะวันออก มีฝนเกือบทั่วไป และฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และปริมาณฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันตอนบน จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กในบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้