ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนทุกภาคยังมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง เหตุลมตะวันตกเฉียงใต้พัดความชื้นจากทะเลอันดามันเข้าปกคลุมประเทศไทย ย้ำ 15-19 พ.ค. ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังฝนตกหนัก ชาวเรือทะเลอันดามัน เดินเรือด้วยความระมัดระวัง
วันนี้ (14 พ.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 เมื่อเวลา 04.00 น. ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง หลังจากนั้น ในช่วงวันที่ 15-17 พฤษภาคม ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักบางแห่ง โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน จะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 14 พฤษภาคม ถึงเวลา 06.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม
ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 36-37 องศาเซลเซียส
สำหรับพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม การคาดหมายช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชกแรงเกิดขึ้น ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทย โดยเฉพาะด้านตะวันตกของภาคเหนือ และภาคกลาง ภาคตะวันออกรวมทั้งภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง ช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย
ภาคเหนือ ช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางด้านตะวันออก และตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันออก และตอนล่างของภาค
ภาคกลาง ช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส สูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ภาคตะวันออก ช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส สูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภาคม มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม มีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนตกร้อยละ 40-60 ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส มิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงวันที่ 15-19 พฤษภารคม มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 60-70 ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ