ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวสัตหีบผวาโรคระบาดน้ำประปาเหม็นเน่านานกว่า 2 สัปดาห์ ประชาชน ครู นักเรียน ป่วยท้องเสีย อาเจียนเข้าโรงพยาบาลกันระนาวนับพันคน พบหลักฐานสำคัญซากปลาน้ำจืดเน่าเหม็นใส่ถุงบรรจุสารส้มของการประปาสัตหีบ หวั่นการระบาดโรคจากน้ำ สาธารณสุขอำเภอเข้าตรวจสอบ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (7 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก พันจ่าเอกประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) แสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ว่า ขณะนี้ได้มีคนป่วยจำนวนมากทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ น่าจะมีโรคระบาดในพื้นที่ ประกอบกับมีคนนำถุงพลาสติกสีขาวสำหรับบรรจุสารส้มจำนวนหลายสิบถุงใส่ปลาน้ำจืด ชนิดปลานิล ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทิ้งไว้ที่กองขยะ ซึ่งทราบว่า ถุงพลาสติกนี้มีหน่วยงานการประปาสัตหีบที่ใช้อยู่ในขณะนี้ แต่ใส่ปลาเน่ามาทิ้งไว้จำนวนมาก ไม่แน่ใจว่าเป็นสาเหตุจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรคหรือไม่ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ขณะนี้ได้เก็บหลักฐานทั้งปลา และถุงพลาสติกดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจริง เพราะได้มีครู นักเรียน และประชาชนมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย และอาเจียน เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จำนวน 610 ราย โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวน 35 ราย และโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 จำนวน 14 ราย
โดยมีครู นักเรียนจากโรงเรียนสัตหีบฐานเขตทัพเรือสัตหีบ จำนวน 163 ราย โรงเรียนสิงห์สมุทรจำนวน 83 ราย โรงเรียนธัมมสิริศึกษาสัตหีบ จำนวน 37 ราย โรงเรียนเลิศปัญญา จำนวน 44 ราย โรงเรียนบ้านสัตหีบ จำนวน 52 ราย โรงเรียนนาวิกโยธินบูรณะ จำนวน 48 ราย โรงเรียนสัตหีบเขตกองเรือยุทธการ จำนวน 49 ราย และประชาชนทั่วไป จำนวน 183 ราย ซึ่งยังมีคนป่วยอีกจำนวนมากที่ไม่ได้เข้ารักษาในโรงพยาบาล
เบื้องต้นสอบถามไปยัง นายเอนก เวชพันธ์ ผู้จัดการการประปาสัตหีบว่า ขณะนี้หน่วยงานในพื้นที่สัตหีบ ได้รับการร้องเรียนว่าน้ำประปาที่ปล่อยจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบใช้นั้น ขุ่นขาว มีกลิ่นเหม็นเน่า และกลิ่นคลอรีนรุนแรงมากนานนับเดือน อีกทั้งมีปลาน้ำจืดจำนวนมากตายลอยเน่าอยู่ในอ่างเก็บน้ำดิบจริงหรือไม่ นายเอนก กล่าวว่า จากกรณีที่มีปลาตายนั้นมีจริง แต่มีจำนวนเพียงเล็กน้อยเพราะอาจขาดออกซิเจน แต่ขอยืนยันว่า ขั้นตอนการผลิตน้ำประปาสะอาดแน่นอน
ส่วนกรณีที่ได้มีผู้ป่วยจำนวนมากเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบการจ่ายน้ำประปานั้น ได้มีหน่วยงานของรัฐเข้าไปตรวจสอบโรงผลิตน้ำแข็งเคโอสัตหีบแล้ว แต่ปรากฏว่า โรงน้ำแข็งนี้ไม่ได้ใช้น้ำประปาในการผลิตน้ำแข็งหลอดแต่อย่างใด
ด้านนางอังคณา แสงเพชร อายุ 47 ปี เจ้าของกิจการโรงน้ำแข็งเคโอสัตหีบ และร้านใบปอผักสด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีคนป่วยจำนวนมาก ได้มีหน่วยงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สาธารณสุขอำเภอสัตหีบ เทศบาลเมืองสัตหีบ และเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ได้เข้าไปตรวจสอบภายในโรงน้ำแข็ง เพราะมีคนสงสัยว่าน่าจะเกิดการแพร่ระบาดจากน้ำแข็ง เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บน้ำดิบและน้ำแข็งที่ผลิตแล้วไปตรวจสอบ ขณะนี้รอผลการพิสูจน์ ซึ่งมั่นใจว่าไม่ใช่สาเหตุมาจากน้ำแข็งแน่นอน เพราะครู นักเรียน โรงเรียนที่ท้องเสีย อาเจียนบางแห่งไม่ได้รับเสบียง และน้ำแข็งจากกิจการของตน ทำให้ขณะนี้ประสบกับการขาดทุนอย่างมาก เพราะลูกค้าบางรายสั่งยกเลิกการซื้อน้ำแข็ง และเสบียง
นางอังคณา กล่าวอีกว่า วันนี้ได้มีโอกาสเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบค้นหาถุงพลาสติกที่ใส่ปลาตาย เน่าเหม็นมาทิ้งไว้ ร่วมกับ พันจ่าเอกประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยนำรถแบ็กโฮขนาดเล็กมาทำการขุดขยะค้นหา ปรากฏว่า ได้พบถุงพลาสติกบรรจุปลาเน่าจำนวนมากถูกทิ้งไว้จริง และได้รับการยืนยันจาก นายมิตร แก่นด้วง อายุ 50 ปี คนเก็บขยะว่า ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีรถกระบะวีโก้ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน นำถุงปลาเน่ามาทิ้งไว้จริง จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อส่งให้สาธารณสุขตรวจสอบ เพราะอาจเป็นที่มาของการแพร่ระบาดของโรคท้องเสีย อาเจียนในครั้งนี้