พิจิตร - นายอำเภอชี้ “สามง่าม” เป็นที่ลุ่ม ไม่เกิน 7 วันน้ำเหนือจากสุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชรทะลักท่วมแน่ แต่เชื่อป้องกันความเสียหายได้ ขณะที่ชาวบ้านเตรียมเรือไว้รับมือแล้ว แถมส่วนใหญ่มองเป็นเรื่องปกติ “มีน้ำมา มีปลากิน”
วันนี้ (5 ก.ย.) นายสุวิทย์ เดชครุฑ นายอำเภอสามง่าม จ.พิจิตร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำที่ ต.เนินปอ ร่วมกับนายสุพจน์ บุศยาจารย์ เกษตรอำเภอสามง่าม และฝ่ายทหารว่า สามง่ามถือเป็นจุดวิกฤต เนื่องจากเป็นที่พื้นที่ลุ่ม รองรับน้ำจากจ.สุโขทัย อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่ไหลเข้ามาทางแม่น้ำยม บวกกับต้องรองรับน้ำจากคลองวังบัว ที่ไหลมาจาก จ.กำแพงเพชร
คาดว่าไม่เกิน 7 วัน ถ้าน้ำจากสุโขทัยและบางระกำที่มีปริมาณมากไหลมาสู่พิจิตร คงจะทำให้อำเภอสามง่ามถูกน้ำท่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เชื่อว่าจะสามารถป้องกันความเสียหายได้ ซึ่งขณะนี้น้ำท่วมแล้ว 5 หมู่บ้าน ส่วนประตูน้ำที่คลองวังกระทึง บริเวณบ้านนาหนองขวัญ หมู่ 17 น้ำได้กัดเซาะคันคลองจนประตูน้ำขาด น้ำได้ไหลบ่าจนไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ ทำให้น้ำท่วมเป็นวงกว้าง
ส่วนระดับน้ำทุกคลองในอ.สามง่าม สูงเสมอขอบคลองทุกเส้นทาง หากมีน้ำเติมเข้ามาก็จะเอ่อล้นคันคลองท่วมนาข้าว ต.เนินปอ 37,142 ไร่ 937 ครัวเรือน ต.หนองโสน 34,838 ไร่ 1,568 ครัวเรือน ต.กำแพงดิน 21,392 ไร่ 796 ครัวเรือน ต.สามง่าม 13,465 ไร่ จำนวน 559 ครัวเรือน ต.รังนก 625 ไร่ 247 ครัวเรือน
ล่าสุดขณะนี้น้ำบางส่วนได้ไหลเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้องรอการเก็บเกี่ยวประมาณ 1 พันไร่ ในหมู่ 15 ต.เนินปอ โดยนายโสดา ศรีเรืองพันธ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 5 ต.เนินปอ อ.สามง่าม ชี้นาข้าวหอมมะลิที่อายุ 90 วัน ที่กำลังตั้งท้องออกรวง แต่ถูกน้ำท่วมจนผลผลิตเสียหาย ขอให้ทางราชการช่วยเหลือด้วย นายอำเภอและเกษตรอำเภอจึงได้เรียกชาวนามารวมตัว ก่อนแนะนำว่านาที่ถูกน้ำท่วมให้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเกษตรตำบล รวมถึงให้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานด้วย
นายสุพจน์แนะนำเพิ่มเติมว่า ในอนาคตต้องเปลี่ยนพันธุ์ข้าวต้านทานน้ำท่วม เป็นข้าวหนักอายุมากกว่า 120 วัน เช่น พันธุ์ข้าวขาวกอเดียว แต่ที่ผ่านมาแนะนำแล้วชาวนาไม่ปฏิบัติ เพราะอยากปลูกข้าวเบา อายุต่ำกว่า 120 วัน เพื่อหวังจะทำนา 2 รอบ
ด้านนายธีรพงศ์ เพ็ชรพงษ์ นายก อบต.รังนก กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านเตรียมความพร้อมเแล้ว เพราะทุกบ้านมีเรือเป็นพาหนะ เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายนทุกปีจะเป็นช่วงน้ำท่วม และไม่มองว่าเป็นเรื่องอุทกภัย เนื่องจากกลายเป็นวิถีชีวิตของชาวอำเภอสามง่ามแล้ว ทำนองว่า “มีน้ำมา มีปลากิน”
