ระดมสมองจัดทำผังเมืองรวมระยอง

ระยอง-จังหวัดระยอง ระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วนวางและจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดระยอง เพื่อใช้เป็นข้อมูลให้แก่ผู้วางผังเมืองรวมจังหวัดระยอง นำไปประกอบการพิจารณา หรือแนวทางในการปรับปรุงการวางและจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดระยอง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.) ที่โรงแรมสตาร์ อ.เมืองระยอง นายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดการประชุมระดมความคิดเห็นทุกภาคส่วน เกี่ยวกับการจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดระยอง โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระยอง มีประชาชนและหน่วยงานรัฐให้ความสนใจเข้าร่วมระดมความคิดเห็นกว่า 200 คน

นายวิญญู หมั่นการ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระยอง กล่าวว่า สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2518 มาตรา 18 วรรค 2 กำหนดไว้ว่า ในการวางและจัดทำผังเมืองรวมใด ให้สำนักผังเมือง หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้วแต่กรณี จัดให้มีการประชาสัมพันธ์ และโฆษณาให้ประชาชนรับทราบตามกฎหมาย แล้วจัดให้มีการประชุมไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในท้องที่ที่การวางและจัดทำผังเมืองรวม

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระยอง จึงได้จัดให้มีการประชุมระดมความคิดเห็นดังกล่าวขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงผังเมืองรวมของจังหวัดระยองให้มีความเหมาะสม สอดคล้อง และตรงตามความต้องการของประชาชนในทุกภาคส่วน ก่อนที่จะประกาศบังคับใช้ในเขตพื้นที่จังหวัดระยองต่อไป

นายทรรศนะ วิชัยธนพัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ในปัจจุบันจังหวัดระยอง เป็นจังหวัดที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง เป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาทั้งหมด 3 ด้าน คือ 1.ด้านอุตสาหกรรม 2.ด้านเกษตรกรรม และ 3.ด้านการท่องเที่ยว ดังนั้น ผังเมืองรวมจังหวัดระยอง จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินทั้งด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว ให้มีความเหมาะสม เป็นระเบียบ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม

และการดำรงรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว และระบบนิเวศของจังหวัดระยองให้มีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ การระดมความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในครั้งนี้ เป็นขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อใช้เป็นข้อมูลให้แก่ผู้วางผังเมืองรวมจังหวัดระยอง นำไปประกอบการพิจารณาหรือแนวทางในการปรับปรุงการวางและจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดระยอง ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตรงตามความต้องการของประชาชน ก่อนที่จะนำไปประกาศเป็นกฎกระทรวงใช้บังคับต่อไป