ศูนย์ข่าวขอนแก่น -“สมาร์ทคอนกรีต” เดินหน้าโรดโชว์หุ้นไอพีโอที่จังหวัดขอนแก่นท่ามกลางนักลงทุนสนใจร่วมงานคึกคัก ด้าน APM ปลื้มนักลงทุนสนใจหุ้นใหม่เข้าตลาด ชี้ธุรกิจสมาร์ทคอนกรีตมีแววเติบโตโดดเด่น “โนมูระ” ผู้จัดการการจำหน่ายหุ้น มั่นใจกระแสตอบรับดี
วันนี้ (4 ก.ย.) บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง และงานกั้นผนังภายในอาคาร จัดกิจกรรมโรดโชว์หุ้นไอพีโอ เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวน 115 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.90 บาท ให้แก่นักลงทุนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียง ณ โรงแรมพูลแมน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
นายประทีป ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 115 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาเสนอขาย หุ้นละ 1.90 บาท โดยจะเปิดจองสำหรับ Pre-emptive ในวันที่ 17-19 ก.ย. 57 และทำการเสนอขายในระหว่างวันที่ 22 -24 ก.ย. 57 คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 2 ต.ค.นี้
สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ SMARTจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยบริษัทจะลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักรเดิมให้สามารถผลิตผนังมวลเบา (PANEL) และผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมความพร้อมให้กับอิฐมวลเบา เช่น คานสำเร็จรูป (LINTEL) รวมทั้งขยายกำลังการผลิตให้เพิ่มมากขึ้นเป็น 6 ล้านตารางเมตร/ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 ล้านตารางเมตร/ปี โดยบริษัทคาดว่า จะเริ่มดำเนินการภายในปี 2558 ใช้งบประมาณสำหรับการลงทุนดังกล่าวประมาณ 200 ล้านบาท
“SMART มีแผนขยายตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทมุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำด้านคุณภาพและการใช้งาน ปัจจุบันการแข่งขันศักยภาพผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบายังมีไม่มาก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ลงทุนค่อนข้างสูง ต้องอาศัย know how ประสบการณ์ในการเรียนรู้และปรับปรุงเพื่อให้ได้สูตรการผลิตที่เหมาะสม มีอัตราส่วนสูญเสียต่ำ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนผลิตและความสามารถการแข่งขันกับคู่แข่งแต่ละรายในตลาด” นายประทีปกล่าว
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า SMART ถือเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาของประเทศที่มีความโดดเด่นในการเติบโตทางธุรกิจ มีความเชี่ยวชาญผลิตอิฐมวลเบาคุณภาพสูงมากว่า 10 ปี จนปัจจุบัน “SMART บล็อคเย็น” เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายแห่ง
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญต่อคุณภาพของสินค้า มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มีนโยบายตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control) ตั้งแต่จัดหาวัตถุดิบจนถึงขั้นตอนการ Packing อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันธุรกิจของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดีได้ต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของภาคก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ในประเทศ และเกิดความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งยังมีโอกาสขยายตลาดเข้าสู่ประเทศในกลุ่ม AEC ที่จะมีการลงทุนในโครงการรูปแบบต่างๆ อีกจำนวนมาก
การระดมทุนของบริษัทในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตสินค้ารองรับคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นได้อย่างเพียงพอ และเป็นการสร้างโอกาสเตรียมรองรับการเติบโตอย่างมีศักยภาพต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-12 ก.ย. 57 SMART จะเดินสายโรดโชว์แนะนำความโดดเด่นของธุรกิจและให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในจังหวัดต่างๆ รวม 11 จังหวัด ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี ภูเก็ต นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี นครสวรรค์ อุบลราชธานี เชียงใหม่ สงขลา และกรุงเทพฯ ซึ่งการโรดโชว์ที่ขอนแก่นมีนักลงทุนเข้ามาร่วมกิจกรรมอย่างล้นหลามเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้
ด้านนายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ เปิดเผยว่า SMART เป็นบริษัทที่มีความพร้อมในการเติบโต ขณะที่ธุรกิจอิฐมวลเบามีแนวโน้มขยายตัวได้ดีทั้งในและต่างประเทศ ราคาหุ้น SMART ที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนในราคา 1.90 บาท จึงถือเป็นระดับราคาที่มีความน่าสนใจ เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยพื้นฐานและโอกาสทางธุรกิจของบริษัท เชื่อว่าการเปิดจองหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย นี้จะได้รับความสนใจและมีกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากจากนักลงทุน
การเสนอขายหุ้นไอพีโอของ SMART มีผู้จัดจำหน่ายร่วม ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ไอ ร่า จำกัด (มหาชน)