เลย - กอ.รมน.เลย พร้อมตำรวจรุกปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ป่า 787 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า อ.ภูเรือ เผยเคยตรวจยึดดำเนินคดีมาแล้วตั้งแต่ปี 2547 แต่ไม่เคยสืบสวนถึงเจ้าของที่ดินตัวจริง ซ้ำบางคดีอัยการสั่งไม่ฟ้อง ชี้มีชื่อผู้บริหารช่อง 3 เข้าปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศ เตรียมเรียกมาชี้แจง
วันนี้ (3 ก.ย.) กำลังทหารกองทัพภาคที่ 2 และหน่วยผสมจังหวัดเลย นำโดยนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมายกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย พร้อมด้วยกำลังทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่ป่าในเขต อ.ภูเรือ ที่ถูกนายทุนบุกรุกป่ากว่า 700 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ
พ.อ.สมหมาย บุษบา คณะทำงานด้านกฎหมายกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย กล่าวว่า พื้นที่ป่าสงวนที่ถูกนายทุนบุกรุกและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดครั้งนี้ ทุกแปลงเคยถูกตรวจยึดและดำเนินคดีมาแล้วเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2547 จำนวน 787 ไร่ มีการก่อสร้างอาคารถาวรเป็นบ้านพักตากอากาศในป่าสงวนแห่งชาติ และอยู่ในเขตลุ่มน้ำชั้น 1A ทั้งยึดของกลางไม้แปรรูป 621 แผ่น จากผลการดำเนินคดี บางคดีถึงที่สุด โดยศาลตัดสินคดีเฉพาะเกี่ยวกับไม้แปรรูป
ส่วนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเข้าครอบครองไม่มีการกล่าวถึง บางคดีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง และบางคดีงดการสอบสวน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่เป็นเพียงลูกจ้างที่ดูแลพื้นที่เท่านั้น ไร้การสืบสวนขยายผลถึงเจ้าของที่ดินที่แท้จริง ซึ่งผู้บุกรุกครอบครองที่ดินมีทั้งข้าราชการ เอกชน และผู้มีอันจะกินทางสังคม โดยปล่อยให้มีการยึดครองมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี
ทั้งนี้ การยึดคืนพื้นที่ป่าครั้งนี้ทั้งหมด 10 แปลง และมีอยู่ 1 แปลงที่ทราบว่าเป็นบ้านพักของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยอยู่บริเวณบ้านหนองบง หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ พื้นที่บุกรุก 184 ไร่ บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูเปลื่อย ป่าภูขี้เภ้า และป่าภูเรือ ซึ่งเรื่องนี้จะประสานไปยังผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
