เพชรบุรี - นายแพทย์สาธารณสุขเพชรบุรี นำเจ้าหน้าที่งานการควบคุมโรค สสจ.เพชรบุรี ลงพื้นที่ตรวจโรงเรียนราษฎร์วิทยาฯ หลังพบโรคตาแดงระบาด พบมีนักเรียนป่วยเป็นโรคตาแดง 10 ราย
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนราษฎร์วิทยา ถนนชีสระอินทร์ ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี นายแพทย์ ประจักษ์ วัฒนะกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่จากงานการควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพชรบุรี ได้เดินทางมาหารือร่วมกับคณะผู้บริหารโรงเรียนราษฎร์วิทยาเพชรบุรี นำโดย นางจุฑามาศ จุฑาพันธ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนราษฎร์วิทยา และนางวารุณี มาศวิจิตรวงศ์ หัวหน้าแผนกภาษาจีน พร้อมคณาจารย์ฝ่ายปกครอง หลังจากได้รับแจ้งว่า มีนักเรียนป่วยด้วยโรคตาแดงเป็นจำนวนมาก โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจเข้าร่วมรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก
นายแพทย์ประจักษ์ วัฒนะกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยภายหลังได้พบหารือกับคณะผู้บริหารโรงเรียนราษฎร์วิทยาเพชรบุรี ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนราษฎร์วิทยาเพชรบุรี ว่า มีนักเรียนป่วยไม่สบายด้วยอาการตาแดง ซึ่งเป็นนักเรียนต่างจังหวัดที่พักค้างในหอพักของทางสถานศึกษา
จากการตรวจสถานที่ภายในโรงเรียนพบว่า มีนักเรียนป่วยเป็นโรคตาแดง จำนวน 10 ราย จึงให้คำแนะนำในการปฏิบัติของสถานศึกษา คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน เนื่องจากโรคตาแดงเกิดจากเชื้อไวรัส สามารถแพร่กระจายติดต่อถึงกันได้ในระยะใกล้ โดยหากมีอาการตาแดงจะเป็นนานประมาณ 1 สัปดาห์ และจะหายไปเอง
ส่วนผู้ที่ต้องหยอดตา หรือป้ายตานั้นอาจเป็นเพราะเกิดความระคายเคืองจึงต้องลดอาการด้วยการหยอดตา หรือป้ายตา และแม้ขณะนี้ยังไม่มีตัวยาใดๆ ในการรักษาโรคตาแดงโดยตรง เพราะเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส
ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ประชาชน และผู้ปกครอง ตลอดทั้งนักเรียน และบุคคลทั่วไปใช้หลักปฏิบัติในการกินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือ รวมทั้งหลีกเลี่ยงสัมผัส หรืออยู่ใกล้กับผู้ป่วยโรคตาแดงโดยตรง ซึ่งจะเป็นแนวทางในการลดการแพร่ระบาดของโรคตาแดง และยังช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้ ล่าสุดทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ได้ติดตามสถานการณ์โรคตาแดง พบว่า มีผู้ประมาณจำนวนประมาณ 120 คนแล้ว
ในส่วนสำนักงานเทศบาลเมืองเพชรบุรี น.ส.เยาวลักษณ์ หอมเกษตร เจ้าหน้าที่จากกกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองเพชรบุรี ซึ่งได้เดินทางมาตรวจสถานที่ภายในโรงเรียนราษฎร์วิทยาด้วย กล่าวว่า ทางเทศบาลเมืองเพชรบุรี จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการฉีดพ่นทำความสะอาดในจุดเสี่ยงภายในโรงเรียน เพื่อลดเชื้อโรคตาแดง และจะได้จัดวิทยากรมาให้ความรู้ในการดูแลรักษาตัวเองให้ปลอดจากการติดเชื้อโรคตาแดง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าได้วิตก เนื่องจากโรคตาแดงเป็นโรคติดต่อที่สามารถป้องกันได้ และทางเทศบาลเมืองเพชรบุรี ได้มีการเฝ้าระวังโรคนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากเกิดขึ้นจะแพร่ระบาดได้เร็ว และต้องพักรักษาตัวนานประมาณ 1 สัปดาห์
สำหรับโรคตาแดง เป็นโรคตาที่พบได้บ่อย เป็นการอักเสบของเยื่อบุตา (conjunctiva) ที่คลุมหนังตาบน และล่างรวมเยื่อบุตาที่คลุมตาขาว โรคตาแดงอาจจะเป็นแบบเฉียบพลัน หรือแบบเรื้อรัง สาเหตุอาจจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส Chlamydia trachoma is ภูมิแพ้ หรือสัมผัสสารที่เป็นพิษต่อตา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส มักจะติดต่อทางมือ ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัว โดยมากใช้เวลาหาย 2 สัปดาห์ ตาแดงจากโรคภูมิแพ้มักจะเป็นตาแดงเรื้อรัง มีการอักเสบของหนังตา ตาแห้ง การใช้ contact lens หรือน้ำยาล้างตาก็เป็นสาเหตุของตาแดงเรื้อรัง
อาการของโรคตาแดงแพทย์จะถามถึงยาที่ท่านรับประทาน ยาหยอดตา เลนส์ น้ำยาล้างตา ระยะเวลาที่เป็น อาการที่สำคัญคือ คันตาเป็นอาการที่สำคัญของผู้ป่วยตาแดงที่เกิดจากภูมิแพ้ อาการคันอาจจะเป็นมากหรือน้อย คนที่เป็นโรคตาแดงโดยที่ไม่มีอาการคันไม่ใช่เกิดจากโรคภูมิแพ้
นอกจากนั้น อาจจะมีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว เช่น หอบหืด ผื่นแพ้ ลักษณะของขี้ตาก็ช่วยบอกสาเหตุของโรคตาแดง ขี้ตาใสเหมือนน้ำตามักจะเกิดจากไวรัส หรือโรคภูมิแพ้ ขี้ตาเป็นเมือกขาวมักจะเกิดจากภูมิแพ้ หรือตาแห้ง ขี้ตาเป็นหนอง มักจะร่วมกับมีสะเก็ดปิดตาตอนเช้าทำให้เปิดตาลำบาก สาเหตุมักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยตาแดงเป็นข้างหนึ่ง หรือสองข้าง เป็นพร้อมกันสองข้างโดยมากมักจะเกิดจากภูมิแพ้ เป็นข้างหนึ่งก่อนแล้วค่อยเป็นสองข้าง
สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อเช่นแบคทีเรีย ไวรัส หรือ Chlamydia ผู้ที่มีโรคตาแดงข้างเดียวแบบเรื้อรัง ชนิดนี้ต้องส่งปรึกษาแพทย์ อาการปวดตา หรือมองแสงจ้าไม่ได้ มักจะเกิดจากโรคชนิดอื่นเช่น ต้อหิน ม่านตาอักเสบ เป็นต้น ดังนั้น หากมีตาแดงร่วมกับปวดตา หรือมองแสงไม่ได้ต้องรีบพบแพทย์ ตามัวแม้ว่ากะพริบตาแล้วก็ยังมัวอยู่ โรคตาแดงมักจะเห็นปกติหากมีอาการตามัวร่วมกับตาแดงต้องปรึกษาแพทย์ ประวัติอื่น การเป็นหวัด การใช้ยาหยอดตา น้ำตาเทียม เครื่องสำอาง โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ประจำ
การตรวจร่างกาย จะต้องลองคลำต่อมน้ำเหลืองรอบหู หากคลำได้อาจจะเป็นโรคติดเชื้อไวรัส หรือจากสัมผัสสารระคายเคือง ส่วนเชื้อแบคทีเรียมักจะคลำไม่ได้ต่อมน้ำเหลือง ในรายที่เป็นไม่มากไม่ต้องตรวจอะไรเพิ่มเติม ในรายที่เป็นรุนแรง เป็นๆ หายๆ หรือเป็นเรื้อรังควรจะต้องตรวจเพาะเชื้อจากขี้ตา การนำขี้ตามาย้อมหาตัวเชื้อก็พอจะบอกสาเหตุของโรคตาแดง
การป้องกันโรคตาแดง อย่าใช้เครื่องสำอางร่วมกับคนอื่น อย่าใช้ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน ล้างมือบ่อยๆ อย่าเอามือเข้าตา ใส่แว่นตากันถ้าต้องเจอสารเคมี อย่าใช้ยาหยอดตาของผู้อื่น อย่าว่ายน้ำในสระที่ไม่ได้ใส่คลอรีน ยาเมื่อไม่ได้ใช้ให้ทิ้ง อย่าสัมผัสมือ และเช็ดลูกบิดด้วยน้ำสบู่เพื่อฆ่าเชื้อโรค
การรักษาตาแดงด้วยตัวเอง โดยการประคบเย็นวันละ 3 ถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 10 ถึง 15 นาที ล้างมือบ่อยๆ อย่าขยี้ตาเพราะจะทำให้ตาระคายมากขึ้น ใส่แว่นกันแดดหากมองแสงสว่างไม่ได้ อย่าใส่ contact lens ช่วยที่มีตาแดง เปลี่ยนปลอกหมอนทุกวัน เปลี่ยนหมอนทุก 2 วัน
หากมีอาการต่อไปนี้ให้รีบพบแพทย์ ได้แก่ ตามัวลง ปวดตามากขึ้น กรอกตาแล้วปวด ไข้ ให้ยาไปแล้ว 48 ชั่วโมงไม่ดีขึ้น น้ำตายังไหลอยู่แม้ว่าจะได้ยาครบแล้ว แพ้แสงอย่างมาก กรณีการหยอดยาหยอดตา ให้ล้างมือก่อนหยอดตาทุกครั้ง ดึงหนังตาล่างลง ตาเหลือกมองเพดาน หยอดตาตรงกลางเปลือกตาล่าง ปิดตาและกรอกตาไปมาเพื่อให้ยากระจาย การหยอดครีมให้หยอดจากหัวตาบีบไปปลายตา ปิดตา และกรอกตาไปมา เช็ดยาที่ล้นออกมา และล้างมือหลังหยอดเสร็จ