xs
xsm
sm
md
lg

“ผบ.พล.9” เตรียมกำลังทหารช่าง ผนึกวัดวังก์-ชาวบ้านซ่อมสะพานมอญเอง ยันไม่แตะงบบริจาคของจังหวัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - ชาวสังขละบุรีเฮ! ผบ.พล.9 เตรียมกำลังทหารช่าง ร่วมกับวัดวังก์วิเวการาม ผนึกกำลังชาวบ้านร่วมแรงสามัคคีลงมือซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ข้ามลำน้ำซองกาเลียเอง หลังบริษัทรับเหมาทำงานไม่สำเร็จ ยันไม่แตะงบบริจาคที่จังหวัดมีอยู่ ส่วนสัญญาว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ด้วยวิธีพิเศษ ให้ทางจังหวัดเคลียร์กับผู้รับเหมาเอง คาดแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ฟันธงไม่เกิน 5 ล้านบาท

จากกรณีจังหวัดกาญจนบุรี ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ด้วยวิธีพิเศษ ให้ซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ข้ามลำน้ำซองกาเลีย เชื่อมต่อระหว่างบ้านวังกะ หมู่ 2 กับ หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ถูกกระแสน้ำพัดขาดเมื่อวันที่ 28 ก.ค.56 โดยเริ่มลงมือซ่อมแซมวันที่ 9 เม.ย.57 สิ้นสุดวันที่ 6 ส.ค.57 รวม 120 วัน วงเงิน 16,347,000 บาท แต่ทางบริษัทไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในในสัญญาได้ สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และชาวจังหวัดกาญจนบุรี

ต่อมา ชาวบ้านได้เริ่มรวมตัวเคลื่อนไหวเรียกร้องขอให้จังหวัดกาญจนบุรียกเลิกสัญญาว่าจ้างกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ โดยขอให้วัดวังก์วิเวการาม และชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันซ่อมบูรณะสะพานตามภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่มีความศรัทธาต่อพระราชอุดมมงคล หรือหลวงพ่ออุตตมะ อดีตเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม

ต่อมา วันที่ 10 ส.ค.57 พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ ได้เดินทางมาไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจระหว่างบริษัทรับเหมา และชาวบ้านเพื่อไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นในพื้นที่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นที่บริเวณเชิงสะพานฝั่งบ้านวังกะ และมีความเห็นพร้อมกันว่า จะให้โอกาสแก่บริษัทผู้รับเหมาซ่อมแซมสะพานดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ถึงวันที่ 10 ก.ย.57 และเหลือระยะเวลาอีกเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น การดำเนินการคืบหน้าไปเพียงประมาณ 48 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ต่อมา เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (31 ส.ค.) พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่จากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ รวมทั้งทหารกองช่างกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ได้เดินทางไปที่วัดวังก์วิเวการาม เพื่อกราบนมัสการพระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาส เพื่อหาแนวทางดำเนินการซ่อมบูรณะสะพาน โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่งโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นคณะทั้งหมดได้เดินทางไปที่บริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ฝั่งหมู่ 2 บ้านวังกะ โดยมีนางรัชนี จำปีขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ร่วมเดินทางไปด้วย

จากนั้น พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 ค่ายสุรสีห์ ให้สัมภาษณ์ว่า กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ได้มีการประชุมแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสะพานมอญ ที่เกิดอุทกภัยจนชำรุดเสียหาย ซึ่งขณะนี้ยังบูรณะไม่เสร็จว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกันต่อไป

สำหรับความเป็นมาทุกคนต่างทราบดีอยู่แล้วว่า สะพานได้รับความเสียหายไปมาก และขณะนี้จังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้จัดซื้อจัดจ้างบริษัทรับเหมาเพื่อที่จะก่อสร้างสะพาน แต่เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น ปัญหาเรื่องฝนตกหนัก และก็มีน้ำไหลหลาก ทำให้เป็นอุปสรรคที่จะซ่อมสะพาน และเรื่องของไม้เราไม่ต้องการที่จะนำไม้ที่ผิดกฎหมายมาซ่อม

เพราะฉะนั้นไม้ที่นำมาซ่อมจึงต้องซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และทางบริษัทได้นำไม้มาจากจังหวัดทางภาคอีสาน ที่อยู่ห่างไกล จึงเป็นอุปสรรคด้านการขนส่งไม้ ประกอบกับผู้รับเหมาเองเคยรับปากแต่ไม่สามารถที่จะทำได้ตามที่รับปากเอาไว้ในห้วงระยะเวลาของการจัดซื้อจัดจ้างได้

“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็คือ เราได้ช่วยกันให้โอกาสระยะเวลาให้แก่ทางบริษัทได้ดำเนินการซ่อมสะพานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ระบบการก่อสร้างห้วงระยะเวลาที่ให้โอกาสไม่เรียบร้อยนัก สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ทางคณะกรรมการของจังหวัด ซึ่งตนได้สอบถามไปแล้วก็ได้คำตอบกลับมาว่า เห็นควรจะต้องให้บริษัทผู้รับเหมายุติการดำเนินการก่อสร้าง จึงทำให้เกิดสุญญากาศขึ้นมา และสะพานก็คงจะไม่เสร็จ” พล.ต.ไพโรจน์ กล่าว

พร้อมกล่าวต่อว่า อย่างไรก็แล้วแต่ ช่วงนี้ทางทหารก็ถือว่าได้รับการขอร้องจากหลายฝ่ายที่ต้องการให้ทหารเข้ามาช่วยซ่อมบูรณะสะพาน เพราะฉะนั้นการที่ทหารจะลงมาช่วยชาวบ้านทำก็มาจากความบริสุทธิ์ใจที่อยากจะให้สะพานซ่อมได้สำเร็จ และที่สำคัญต้องการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นแก่ทุกฝ่าย

“ถ้าทางจังหวัดจะยุติสัญญาการว่าจ้างแต่สะพานยังสร้างไม่เสร็จ ในห้วงต้นเดือน ก.ย.นี้ ทางทหารจะลงมาทำเองทั้งหมดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินงบที่ได้รับบริจาคมาแม้แต่บาทเดียว ซึ่งทหารจะสำรวจดูว่าไม้เก่าที่มีอยู่นั้นมีอยู่จำนวนเท่าไหร่ และไม้ที่ทางวัดมีนั้นมีอยู่เท่าไหร่ ซึ่งจากการคำนวณคร่าวๆ คิดว่าทหารจะทำได้อย่างแน่นอน โดยทางทหารจะใช้กองพันทหารช่างที่มีวิศวกรอยู่หลายๆ ฝ่ายเข้ามาทำ

เชื่อว่าทหารของเราจะทำได้ และทำได้ดีด้วย แต่ต้องรอให้ทางจังหวัดยกเลิกสัญญาการว่าจ้างกับบริษัทผู้รับเหมาก่อน และเชื่อว่าจะมีการยกเลิกสัญญาก่อนวันที่ 10 ก.ย.นี้ และถ้าหากมีการฟ้องร้องก็เป็นเรื่องระหว่างบริษัทผู้รับเหมากับทางจังหวัด โดยเราจะใช้กลุ่มที่เราเรียกว่ากลุ่มผู้ที่มีจิตอาสาเข้ามาช่วยอีกทางหนึ่ง และจะซ่อมในระยะเวลาที่สั้นที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด” พล.ต.ไพโรจน์ กล่าว

พล.ต.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ในขั้นต้นก็ได้รับความร่วมมือจากเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ราษฎรและผู้นำชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างดี คาดว่าการซ่อมบูรณะสะพานคงจะแล้วเสร็จในห้วงระยะเวลาที่จำเป็น โดยจะต้องไม่มีความขัดแย้งจากทุกฝ่าย โดยทางจังหวัดกาญจนบุรี ก็ควรจะต้องมาประชาสัมพันธ์ให้แก่ชาวบ้านให้เข้าใจอีกครั้งหนึ่งว่า ทำไมถึงซ่อมสะพานไม่เสร็จเชื่อว่ามันคงมีเหตุผลอยู่แล้ว

และการที่หลายฝ่ายร้องขอให้ทหารเข้ามาซ่อมสะพาน ทหารก็จะทำให้ดีที่สุด โดยทหารจะร่วมมือกับทุกๆ ฝ่าย และไม่ต้องการไปรื้อฟื้นเรื่องเก่าว่ามันเป็นเพราะคนโน้นหรือคนนี้ เป้าหมายของทหารคือ เราจะร่วมเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน หวังว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือกับทหารเป็นอย่างดี เพราะสะพานแห่งนี้ถือว่าเป็นสะพานที่มีความสำคัญมาก เพราะว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก

อีกทั้งยังเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป และตนขอยืนยันว่า สะพานแห่งนี้จะต้องเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ และจะต้องมีประสิทธิภาพยังคงอัตลักษณ์เดิมเอาไว้

“โดยชาวบ้านในพื้นที่จะเป็นเครื่องจักรสำคัญในการร่วมกับทหารซ่อมบูรณะสะพานขึ้นมาใหม่ และหลังจากซ่อมบูรณะสะพานแห่งนี้แล้วเสร็จ ทหารก็จะไปปฏิบัติภารกิจอื่นอีกต่อไป และคนที่จะต้องดูแลสะพานแห่งนี้ต่อไปก็คือ ชาวบ้านในพื้นที่ที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น และหากมีจิตอาสาต้องการเข้ามามีส่วนร่วมเชื่อว่าทุกฝ่ายจะต้องยินดีต้อนรับ” พล.ต.ไพโรจน์ กล่าว

พล.ต.ไพโรจน์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับงบประมาณในการนำมาซ่อมบูรณะครั้งนี้ ทั้งค่าน้ำมัน เครื่องจักร ทางทหารจะเป็นผู้ดำเนินการออกเองหมด คาดว่าคงไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งจากการได้พูดคุยกับเจ้าอาวาส ท่านก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่เพราะทางวัดก็มีเงินอยู่บางส่วนแล้ว หรือหากประชาชนชนท่านใดต้องการที่จะมีส่วนร่วม หากมาได้ก็สามารถบริจาคเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ทางวัดเปิดเอาไว้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสังขละบุรี บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ชื่อบัญชี วัดวังก์วิเวการาม (สะพานไม้อุตตมานุสรณ์) เลขบัญชี 679-216755-4

ด้านนางรัชนี จำปีขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 กล่าวว่า หลังจากที่ทางท่าน ผบ.พล.9 เตรียมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยเหลือชาวบ้านในการซ่อมบูรณะสะพาน ตรงนี้ตนในฐานะผู้นำชุมชนก็มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก และชาวบ้านต่างดีใจที่ทหารจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้คลี่คลายไปในทางที่ดี อีกทั้งจะเกิดความปรองดองขึ้นแก่ทุกฝ่าย ชาวบ้านก็จะได้สะพานกลับคืนมาโดยเร็ว และนักท่องเที่ยวก็จะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับชาวบ้านที่จะเข้ามาช่วยทหารซ่อมบูรณะสะพาน ทางหมู่บ้านยังมีผู้เชี่ยวชาญอยู่อีกมาก ซึ่งจากการพูดคุยทุกคนต่างมีความยินดีที่จะเข้ามาร่วมมือกับทหาร และจิตอาสาจากกลุ่มต่างๆ จนกว่าสะพานจะแล้วเสร็จ





กำลังโหลดความคิดเห็น