ประจวบคีรีขันธ์ - ทหาร ฝ่ายปกครองสนธิกำลังตรวจสอบหุบเขาสามชั้น ทับแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พบรุกที่ต่อจาก ส.ป.ก. 4-01 เกือบ 100 ไร่
วันนี้ (29 ส.ค.) พ.ท.สุทธิศักดิ์ พรรคเจริญ ผบ.พัน 1 ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ ได้สั่งการให้ ร.ต.ประยูร โพธิพูนพันธุ์ กองร้อยรักษาความสงบที่ 1 สนธิกำลังกับ นายภาคภูมิ อร่ามศิริรุจิเวทย์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นายประมุข สัจจวิเศษ ปลัดอำเภอเมือง ฝ่ายความมั่นคง นายหมู่เอกวิสชาลี คุ้มเดช หัวหน้าชุด อส. นายสืบพงศ์ บัวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ปข.4 (ห้วยทราย) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบพื้นที่กลางหุบเขาสามชั้น เขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
เมื่อไปถึงพบคนงานหลายคนกำลังหักสับปะรด และไถปรับพื้นที่ด้วยรถแทรกเตอร์ ทราบชื่อคนขับ คือ นายบุญทิ้ง เทียมเทศ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 7 ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนายบุญทิ้ง ให้ข้อมูลว่า รับจ้างขับรถแทรกเตอร์เพื่อปรับที่ ได้ค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง ชั่วละ 70 บาท ส่วนคนงานที่เหลืออีก 3 คน มีหน้าที่หักสับปะรด ค่าจ้างวันละ 200 บาท ซึ่งคนงานทั้งหมดเป็นลูกจ้างของ นายสาย คมขำ อยู่บ้านเลขที่ 25 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นคนงานทั้งหมดระบุว่า ไม่ทราบว่าที่ดินมีเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ เพราะเป็นเพียงคนงานทำไร่ธรรมดาเท่านั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องมือวัดพิกัดจีพีเอส พบมีความลาดชั้นเกินกว่า 45 องศา มีก้อนหินระเกะระกะไปทั่วบริเวณ บางส่วนถูกไถปรับขึ้นไปเชิงเขา เมื่อวัดพื้นที่จากต่อจากแนวมุดหลักที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ที่อยู่ติดกัน พบว่า มีพื้นที่เกินเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รวม 95 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา
ต่อมา นายสาย ได้นำเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู แต่พบว่าพื้นที่ปลูกสับปะรดแนวราบด้านทิศตะวันออกอยู่ในเขต ส.ป.ก. 4-01 แต่ทิศตะวันตก อยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารทั้งหมดไปตรวจสอบกับแผนที่ของสำนักปฏิรูปที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแผนที่ของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยได้เชิญคนงานทั้งหมดไปให้ปากคำเพิ่มเติม และเตรียมดำเนินคดีต่อเจ้าของที่ดิน ข้อหาผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานร่วมกันสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต