ระยอง - อธิบดี ทช. สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนป่าประแส และป่าพังราด 3 แปลง เนื้อที่กว่า 4 พันไร หลังพบมีการบุกรุกทำนากุ้ง
วันนี้ (28 ส.ค) นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย โชติกมาศ ผู้อำนวยการส่วนคุ้มครองป้องกันทรัพยากรป่าชายเลน (หัวหน้าชุดฉลามขาว) นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน นายอำเภอแกลง หน่วยงานทหาร ตำรวจ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รวมถึงเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย ร่วมกันปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าชายเลน ป่าสงวนแห่งชาติป่าประแส และป่าพังราด หมู่ 8 ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง หลังพบมีการใช้พื้นที่ทำนากุ้ง 3 แปลง พื้นที่รวมกว่า 4 พันไร่
โดยนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า การปฏิบัติงานดังกล่าวเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นต้นเพื่อตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณดังกล่าว โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งส่วนใหญ่ถูกบุกรุกเป็นฟาร์มเลี้ยงกุ้ง ในเนื้อที่รวมเกือบ 4 พันไร่ โดยเป็นพื้นที่ที่มีทั้งเอกสารสิทธิ และไม่มีเอกสารสิทธิ รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกเข้าไปนอกเหนือเอกสารสิทธิค่อนข้างมาก ซึ่งหากเจ้าของฟาร์มเลี้ยงกุ้งสามารถนำเอกสารสิทธิมาแสดงได้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ก็จะรับเรื่องไว้เพื่อพิสูจน์ทราบเพื่อให้ความเป็นธรรม
ทั้งนี้ ปัจจุบันพื้นที่ป่าชายเลนในจังหวัดระยอง มีจำนวนทั้งสิ้น 2.9 ล้านไร่ แต่กลับพบว่ามีพื้นที่ที่คงความเป็นพื้นที่ป่าชายเลนเพียง 1.52 ล้านไร่ นอกนั้นถูกจัดสรรเป็นพื้นที่ที่มีการทำประโยชน์ประเภทต่างๆ เช่น นากุ้ง พื้นที่ทำการเกษตร และพื้นที่ชุมชน สร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศชายฝั่ง ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขมาโดยตลอด แต่เนื่องจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องประสบปัญหาผู้มีอิทธิพล รวมทั้งนายทุนรายใหญ่ ตลอดจนกำลังพลที่ไม่เพียงพอการป้องกัน และแก้ไขปัญหาจึงไม่ทันต่อสถานการณ์
สำหรับการปฏิบัติงานในครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ และติดตามปัญหาผู้บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนหมู่ 8 ตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่ง ทช.ได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจฉลามขาว เพื่อดูแลรับผิดชอบ
ส่วนกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในป่าสงวนแห่งชาติป่าประแส และป่าพังราด กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะนำพื้นที่ที่ถูกบุกรุกมาฟื้นฟูสภาพด้วยการปลูกป่า ภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชน และจะดำเนินการกำหนดเขตการใช้ประโยชน์แบ่งเป็นเขตอนุรักษ์ และเขตเศรษฐกิจ พื่อเป็นฐานการสร้างรายได้ของชุมชนต่อไป
ทั้งนี้ พื้นที่ป่าไม้ที่อยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ได้มีการตรวจสอบการถือครองที่ดินมีจำนวนประมาณ 6 แสนกว่าไร่ และพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิไปแล้ว จำนวน 3 แสนกว่าไร่ ซึ่งการลงพื้นที่ในวันนี้เน้นที่กระบวนการตรวจในเบื้องต้นโดยใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ และจากการตรวจสอบแปลง 1 ใน 3 แปลงที่พบว่ามีบุกรุกแผ้วถาง ซึ่งจะส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแกลง จังหวัดระยอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป