ยิ่งกว่าละคร! หนุ่มเป็นมะเร็ง-ยากจน เมียต้องคอยดูแล เจอข้อหาเป็น “เถ้าแก่โรงเลื่อยเถื่อน”

พิษณุโลก - ชีวิตรันทด พบหนุ่มผู้ป่วยเป็นมะเร็งโพรงจมูกชาวเมืองสองแคว ต้องเจาะคอช่วยหายใจ-เจาะช่องท้องให้อาหาร ฐานะยากจนอยู่บ้านโทรมๆกับลูก-เมีย กลายเป็นแพะรับบาป ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาตั้งโรงไม้เถื่อน

วันนี้ (27 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบหนุ่มป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ไม่สามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวได้ แต่กลับถูกดำเนินคดีข้อหามีไม้ท่อน และแปรรูปไม้ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนกระทำผิด อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 6 บ้านหนองไผ่ล้อม ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง สภาพเก่าทรุดโทรม มีนายปานศิริ ทองอยู่เย็น อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่ใต้ถุนบ้านในสภาพร่างกายผอมซีดเซียว บริเวณลำคอถูกเจาะเพื่อช่วยหายใจ และที่ช่องท้องต้องเจาะต่อสายยางเพื่อให้อาหารเหลว

นางสุรีรัตน์ ทองอยู่เย็น อายุ 44 ปี ภรรยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สามีทำงานรับจ้าง และมีร่างกายแข็งแรงปกติเหมือนคนทั่วไป จนกระทั่งเมื่อปลายปีที่แล้ว (2556) เริ่มมีอาการหายใจลำบาก คล้ายโรคภูมิแพ้ จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ตรวจเจอเป็นมะเร็งที่หลังโพรงจมูก

จากนั้นหมอจึงได้รักษาด้วยการทำคีโมฉายแสงครบหมดแล้ว และเจาะลำคอเพื่อช่วยในการช่วยหายใจ เจาะช่องท้องเพื่อให้อาหารเหลวเพราะไม่สามารถรับประทานอาหารได้เหมือนคนทั่วไป

“ทุกวันนี้สามีตนไม่สามารถออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ ส่วนตนก็ต้องคอยดูแลสามีอย่างใกล้ชิด และเลี้ยงดู ด.ช.ธีร์ธวัช ทองอยู่เย็น อายุ 1 ขวบ ลูกชาย ทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานได้ ต้องคอยอาศัยเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องนำข้าวปลาอาหารมาให้เพื่อประทังชีวิต”

นางสุรีรัตน์กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่ารันทดกว่านั้นคือ นอกจากป่วยหนักแล้ว สามีของตนเองต้องมาตกเป็นแพะรับบาป เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเลย เลขที่ จ.163/2256 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2556 ในคดีตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มีไม้ท่อนไว้ในความครอบครอง และมีไม้แปรรูปหวงห้าม มีเลื่อยโซ่ยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก จับกุมตัวส่ง สภ.ท้องที่ จ.เลย และถูกฟ้องดำเนินคดี-ฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดเลยอยู่ 7 วัน ก่อนที่ญาติจะประกันตัวเพื่อสู้คดี

“ครอบครัวตนไม่เคยไปทำงานที่ จ.เลย และก็มีฐานะยากจนข้นแค้นขนาดนี้ สามีจะไปมีโรงงานแปรรูปไม้ได้อย่างไร จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความจริงอีกครั้ง”

ล่าสุดศาล จ.เลยได้นัดไปฟังคำตัดสินว่าสามีตนเองจะมีความผิดจริงหรือไม่ในวันที่ 26-27 พ.ย. 57 ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือคดีดังกล่าวด้วย