ประจวบคีรีขันธ์ - นายอำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน ทหาร ตำรวจ และคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน เดินหน้าจัดระเบียบชายหาดต่อเนื่อง เรียกผู้ประกอบการอีก 44 ร้าน ด้านโซนทิศเหนือของชายหาดหัวหินมาประชุมทำความเข้าใจ ก่อนลงมือรื้อสิ่งปลูกสร้าง พร้อมกำหนด 11 ข้อ ให้เจ้าของร้านชายหาดโซนทิศใต้ต้องปฏิบัติตาม หลังการรื้อถอนด้านโซนทิศเหนือ 22 ร้านของชายหาดใกล้เสร็จสิ้น คาดไม่เกินวันพรุ่งนี้
วันนี้ (19 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีถึง 4 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน โดยกลุ่ม 1.บริเวณหาดทรายน้อย-บ้านหัวดอน จำนวน 23 ราย กลุ่ม 2.บ้านหัวดอน-โรงแรมสายลม จำนวน 6 ราย กลุ่ม 3.บริเวณโรงแรมสายลม-บ้านรักสุภา จำนวน 15 ราย ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มอยู่ทางด้านโซนทิศใต้ และกลุ่ม 4.บริเวณทางลงชายหาดหน้าโรงแรมโซฟิเทลฯ จำนวน 22 ราย ซึ่งอยู่ทางด้านโซนทิศเหนือ ที่ทำการรื้อจนใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว
โดยวันนี้ นายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 15 จังหวัดเพชรบุรี นายอนุวัช เต็มชัย ปลัดอำเภอหัวหิน นายจีรวัฒน์ พราหมมณี รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน นายสุทธิพล สุดเสนาะ รองปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน เจ้าหน้าที่ดิน เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่เทศกิจ และคณะกรรมการสนับสนุนการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน ได้เชิญผู้ประกอบการเจ้าของร้านอาหารตั้งแต่กลุ่มที่ 1-3 จำนวน 44 ราย ซึ่งเป็นทางด้านโซนทิศใต้ มาประชุม
โดยนายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอหัวหิน พร้อมคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน และตัวแทนฝ่ายกฎหมายของที่ทำการปกครองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ชี้แจงให้เจ้าของร้านอาหารทั้งหมดได้รับทราบว่า ทางคณะกรรมการจัดระเบียบฯ ไม่ได้ต้องการไล่ผู้ประกอบการบริเวณดังกล่าวออกไป เพียงแต่อยากให้ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และร่วมกันจัดระเบียบชายหาดหัวหินให้ดูสวยงามขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย
โดยเห็นว่าคงต้องใช้หลักเกณฑ์เดียวกับเจ้าของร้านอาหารชายหาดหัวหิน 22 ร้าน ทางโซนทิศเหนือ บริเวณทางลงชายหาดหัวหิน แต่มีบางส่วนที่ต้องรับปรุงแก้ไขบ้าง เนื่องจากในส่วนด้านโซนทิศใต้นั้นไม่ได้มีบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงมหาดไทย เหมือนกับทาง 22 ร้าน ทางด้านโซนทิศเหนือ และทราบว่า มีเพียงข้อตกลงที่ทางเจ้าของร้านอาหารในโซนทางด้านทิศใต้ทำกับทางเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อปี 2548 ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ทำตามบันทึกข้อตกลงที่ผ่านมา
สำหรับข้อบันทึกข้อตกลง 11 ข้อป ระกอบด้วย 1.ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของที่ดินด้านหน้าชายหาด ที่ตนเองค้าขาย และต้องเป็นลายลักษณ์อักษร 2.ห้ามก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและอาคารถาวร 3.ผู้ประกอบการต้องเก็บของขึ้นจากชายหาดทุกวัน เตียง เต็นท์ ร่ม 4.ห้ามตั้งร้านค้าขวางทางระบายน้ำ 5.ทุกวันพุธ เจ้าของร้านทั้งหมดต้องงดประกอบอาหาร ตั้งเต็นท์ เตียงผ้าใบ และร่ม
6.ห้ามมิให้เจ้าของเดิม เซ้ง ขาย ให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช้พี่น้องโดยเด็ดขาด หากรู้ก็จะยกเลิกทันที 7.ให้ใช้เมนูราคากลางเหมือน 22 ร้านชายหาดหัวหิน โซนเหนือ 8.แต่ละร้านต้องไม่มีการปรับเปลี่ยนการค้าขาย จากเดิมที่ขายอาหาร จะไปเปลี่ยนเป็นการนวด หรืออย่างอื่นไม่ได้ หลังการจัดระเบียบ 9.พื้นที่ที่มีการอนุญาตให้ใช้แล้ว หากทางรัฐต้องการที่ดินไปดำเนินการ ก็ห้ามไม่ให้เรียกร้องการเวนคืนที่ดิน 10.ทำสัญญาเป็นแบบปีต่อปี
ส่วนข้อ 11.บทลงโทษหากทำผิดจะถูกลงโทษด้วยการตักเตือน หยุดกิจการ 7 วัน และโทษหนักให้เลิกดำเนินกิจการเป็นการถาวร
โดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการทั้ง 44 รายบางส่วนได้มีการโต้แย้ง และเห็นว่าพื้นที่ที่จะมีการตอกหมุดวางผังที่ให้นั้นไม่เพียงพอ ซึ่งทางนายอำเภอหัวหิน นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และคณะกรรมการฯ เห็นว่าเพียงพอแล้ว เพราะมีการอนุญาตให้วางเตียงผ้าใบ เต็นท์ และร่ม และประกอบอาหารได้ โดยผู้ประกอบการร้านค้าขออนุญาตขายอาหาร และประกอบกิจการ เนื่องจากหยุดมาหลายวันทำส่งผลกระทบต่อรายได้
ทั้งนี้ นายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดหัวหินฯ ได้อนุญาต แต่ทั้งหมดต้องรื้อร้าน และเก็บข้าวของออกไปให้หมดก่อนภายในสัปดาห์นี้ และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ และอนุญาตให้ใช้ร่มเป็นการชั่วคราวในการประกอบอาหารได้ แต่ต้องเก็บทุกวัน และทำตามข้อตกลงจนกว่าเทศบาลเมืองหัวหิน จะดำเนินการจัดสร้างเต็นท์มาให้ และวางหมุดตีผังให้เรียบร้อย
นายพรชัย กล่าวว่า ทางคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน จะเร่งสรุปข้อมูลรายละเอียดและบันทึกข้อตกลงต่างๆ นำเสนอต่อ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานคณะกรรมการการจัดระเบียบชายหาดจังหวัดประจวบฯ และคณะกรรมการชุดใหญ่ให้ทราบต่อไป เพื่อส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าทุกคนต้องสามารถใช้พื้นที่ชายหาดร่วมกันได้ รวมไปถึงผู้ประกอบกิจการคอนโดฯ โรงแรม รีสอร์ตที่อยู่ริมชายหาด เพราะผู้ประกอบการร้านชายหาดหัวหิน จะใช้ประโยชน์เพียงคนเดียวไม่ได้ โดยเฉพาะที่ผ่านมา ก็เกิดปัญหาร้องเรียนมายังอำเภอหัวหินบ่อยครั้ง และครั้งนี้ถือเป็นทางออกที่ดีแล้ว ทั้งหมดนี้ไม่ได้ทำเพื่อนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่ทำเพื่อชาวหัวหินด้วยเช่นกัน เราทำความสมดุลให้ดีที่สุดระหว่างกฎหมาย กับการทำมาหากินของชาวหัวหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของรื้อร้านชายหาดหัวหินโซนเหนือ 22 ร้านนั้น คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) น่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเย็น ในขณะเดียวกัน บริเวณเช่าตะเกียบ-บ้านหัวดอนนั้นบางร้านค้ามีการเทพื้นปูอิฐบล็อก ซึ่งบางส่วนได้เริ่มทยอยรื้อร้านค้าออกบ้างแล้ว
นางพัชรินทร์ พึ่งเจาะ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านป้าน้อยบ้านหัวดอน ยอมรับการจัดระเบียบชายหาดบริเวณดังกล่าวหลังมีการประชุมในวันนี้ พร้อมกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทำกินมาตั้งแต่สมัยแม่มา 20 ปีแล้วที่มาบุกเบิก วันนี้ต้องมารื้อออกไปก็รู้สึกใจหายบ้าง แต่ยังโชคดีที่ทางคณะกรรมการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน ได้เปิดโอกาสได้ทำกิน ตอนนี้พยามเร่งรื้อเพราะจะได้เสร็จได้ทันตามกำหนดก็จะได้ขายของต่อ เพราะหยุดมาหลายวันแล้ว