ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ประกอบกิจการร้านค้าชายหาดหัวหิน 22 ร้าน เริ่มทยอยเก็บสิ่งของ ทั้งเตียงผ้าใบ ร่ม และเริ่มรื้อสื่งปลูกสร้างบางส่วนออกจากชายหาดหัวหิน หลังจากทางฝ่ายปกครองหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน กำหนดตั้งแต่พรุ่งนี้ไปจนถึงวันศุกร์ เพื่อรองรับการเข้ามาจัดระเบียบจัดสรรพื้นที่ขายอาหาร และตั้งเตียงผ้าใบ ร่ม แต่มีการกำหนดใน “นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก” เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี และจะส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของหัวหิน เปิดเมนูราคาอาหารใหม่พบปรับลดลงเกินครึ่ง ส้มตำปูม้า 150 บาท ส้มตำไทยปรับลดจาก 150 บาท เหลือ 45 บาท อาหารทะเลเผา 900 บาท เหลือ 350-500 บาท
วันนี้ (17 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าชายหาดหัวหิน 22 ร้าน โดยตลอดทั้งวันยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสั่งอาหาร และนั่งรับประทานที่เตียงชายหาดตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นเมนูใหม่ทั้ง 22 ร้าน ที่มีการกำหนดออกมาโดยสำนักงานการค้าภายใน เทศบาลเมืองหัวหิน อำเภอหัวหิน และมีการทำเป็นเมนูให้ผู้ประกอบการร้านค้าชายหาดหัวหิน มาใช้เป็นการชั่วคราว ซึ่งราคาอาหารจะถูกกว่าเมนูเดิม และไม่มีปัญหานักท่องเที่ยวบ่นว่าแพงแต่อย่างใด
ขณะที่ในช่วงเย็น บรรดาผู้ประกอบการร้านชายหาดหัวหิน 22 ร้าน ต่างทยอยเริ่มเก็บสิ่งของออกจากร้านค้าตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นร่ม เตียงผ้าใบ อุปกรณ์ประกอบอาหารในร้าน ฯลฯ หลังจากทางนายพรชัย ถมกระจ่าง นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ร่วมกันหาข้อยุติในการจัดระเบียบร้านค้าชายหาดหัวหิน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านชายหาดหัวหิน 22 ร้าน จะต้องเก็บสิ่งของขึ้นไปจากชายหาดหัวหินตั้งแต่เย็นวันนี้ (17 ส.ค.) ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. จากนั้นในสัปดาห์หน้าจะไม่มีการตั้งเตียงผ้าใบ ร่ม และการประกอบอาหารแต่อย่างใด หลังจากนั้น เทศบาลเมืองหัวหิน จะลงมาดำเนินการแบ่งพื้นที่ให้ใหม่ โดยจะเป็นพื้นที่ขนาด 1 เมตร จากกำแพงชายหาดหัวหินไว้เป็นที่เก็บของ
ส่วนบริเวณตัวที่ประกอบอาหารจะเป็นเต็นท์ขนาด 3 คูณ 3 เมตร ประกอบอาหารได้แต่ต้องเก็บอุปกรณ์ และสิ่งของในช่วงเย็นทุกวัน เว้นทางเดินให้นักท่องเที่ยว 2 เมตร และให้ปักร่มได้รายละ 50 คัน เตียงผ้าใบ 48 ตัว หรือ 6 ชุด ในทุกวันพุธ จะไม่มีการขายอาหาร และตั้งเตียงผ้าใบและร่ม แต่อย่างใด โดยในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.) ทางเทศบาลเมืองหัวหิน จะได้นำข้อตกลงมาให้ผู้ประกอบการร้านค้าหาดหัวหิน 22 ร้าน ได้เซ็นรับทราบ และทดลองใช้ประมาณ 6 เดือน
**“นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก”
ชี้ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวหัวหิน
นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก กล่าวว่า การจัดระเบียบชายหาดหัวหินครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้แก่การท่องเที่ยว สิ่งสำคัญขบวนการในการจัดระเบียบต้องงเป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องผ่านขั้นตอนการสำรวจของหน่วยงานว่าร้านค้าชายหาดหัวหินนั้นต้องเป็นชาวบ้านรายเดิม ไม่ให้มีการสวมสิทธิเข้ามา และเมื่อจัดระเบียบแล้วต้องขึ้นทะเบียนไว้ให้ชัดเจน
“ส่วนเรื่องราคาอาหารชายหาดหัวหิน ก็ควรเป็นเมนูกลางเหมือนกัน แข่งขันที่กันที่การให้บริการ รสชาติอาหาร และคุณภาพ เชื่อว่าหากการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน แล้วเสร็จจะส่งผลที่ดีต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการคืนธรรมชาติให้แก่ชายหาดหัวหิน สัปดาห์ละ 1 ครั้งในการปลอดเตียงผ้าใบ และร่ม มั่นใจว่านักท่องเที่ยวที่ไปหัวหินจะต้องดีใจ สามารถไปปูเสื่อนั่งเล่นชายหาดหัวหินเหมือนในอดีตที่ผ่านมา” นายวสันต์ กล่าว
ด้าน นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การจัดระเบียบชายหาดหัวหิน ในครั้งนี้ไม่มีใครมากดดัน ในกรณีที่ข้อสรุปเปิดโอกาสให้ผู้ประกออบการสามารถปรุงอาหารได้ที่ชายหาดแต่ละร้าน ซึ่งเราต้องคิดถึงชาวบ้านที่ทำมาหากินด้วยว่า เขาประกอบอาชีพดังกล่าวมานาน
ดังนั้น ในเมื่อหน่วยงาน และชาวบ้านที่ประกอบอาชีพมีทางออกร่วมกันก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่เหมือนเก่าที่ไม่มีระเบียบ แต่ครั้งนี้ทางเทศบาลเมืองหัวหิน มีการจัดทำเต็นท์ให้ผู้ประกอบการขึ้นมาประกอบอาหารได้ แต่ถึงเวลาก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ตกลงกัน และเชื่อว่าหลังจากนี้ไป ปัญหาการร้องเรียนราคาอาหารแพงคงจะหมดไป ซึ่งหลังจากนี้ ทางจังหวัดจะได้ทำการแต่งตั้งศูนย์ดำรงธรรมขึ้นมา ในส่วนของอำเภอหัวหิน ประกอบด้วย หน่วยงานเกี่ยวข้อง ออกไปให้บริการบริเวณชายหาดหัวหิน เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่บริเวณชายหาดหัวหิน หากไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ
“ผมยังเชื่อมั่นว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผู้ประกอบการร้านค้าชายหาดหัวหิน คงจะเริ่มทยอยจัดระเบียบตามที่ได้ตกลงกันไว้กับทางหน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” นายวีระ กล่าว
**เปิดเมนูราคาอาหารใหม่พบปรับลดลงเกินครึ่ง
ทางด้าน นางสมพิศ มลฑา เจ้าของร้านค้าชายหาดหัวหินร้านที่ 5 กล่าวว่า ในส่วนของร้านตนเอง ก็เริ่มทยอยเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้ว เพราะพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก และได้หาที่จัดเก็บไว้แล้ว
“เบื้องต้นข้อตกลงกับทางฝ่ายปกครอง และเทศบาลเมืองหัวหินก็ถือว่ารับได้ที่อนุญาตให้ประกอบอาหารที่ชายหาดได้ ถึงเวลาเราก็หาที่เก็บทุกวัน และถือว่าเราเองก็ต้องปรับตัวเพื่อที่จะทำกินที่ชายหาดหัวหินต่อไป ส่วนเรื่องเมนูอาหารซึ่งเป็นราคาเดียวกันหมดในขณะนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” เจ้าของร้านค้าชายหาดหัวหิน ร้านที่ 5 กล่าว
อนึ่ง สำหรับราคากลางที่กำหนดใหม่ร่วมกันคือส้มตำปูเค็ม 45 บาท, ส้มตำปูม้า 150 บาท, ส้มตำไทย 45 บาท, ปลาเผา ราคาตามน้ำหนัก, ทะเลเผา ขนาดเล็ก/ใหญ่ ราคา 350-500 บาท หอยแมลงภู่ 100 บาท, หอยแครง 120 บาท, กุ้งอบวุ้นเส้น 250 บาท, หมึกย่าง 150 บาท, ข้าวผัดปู ขนาด 4 คน 200 บาท, แกงจืดหมูสับ เล็ก/ใหญ่ ราคา 80/120 บาท, ผัดกะเพราทะเล 150 บาท, กุ้งชุบแป้งทอด 250 บาท, ต้มยำทะเล 250 บาท, เบียร์ลีโอ ขวดละ 80 บาท, โค้ก 1.25 ลิตร 30 บาท และน้ำเปล่าขวดละ 10 บาท
สำหรับตัวอย่างราคาเมนูต่างๆ ที่ทำให้ถูกร้องเรียนว่าขายเกินจริงก่อนหน้านี้ เช่น ส้มตำปู 150 บาท, ส้มตำไทย 150 บาท, หอยเผา 200 บาท, กุ้งอบวุ้นเส้น 350 บาท, หมึกย่าง 250 บาท, ข้าวผัดปู ขนาดกลาง จานละ 300 บาท, แกงจืดหมูสับ หม้อละ 250 บาท, ผัดกะเพราทะเล 200 บาท, เบียร์ลีโอ ขวดละ 120 บาท ขณะที่บางร้านขายส้มตำ 250 บาท, ปูนึ่ง 480 บาท, ข้าวผัดปู 350 บาท และชุดทะเลเผา 900 บาท เป็นต้น