นักท่องเที่ยวชาวเวียงจันทน์ชื่นชม “ส้มตำปูม้าหาดหัวหิน” สุดยอดความอร่อย

ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน เดินหน้าทำความเข้าใจต่อนักท่องเที่ยว หลังพบอาหารแพง และการจัดระเบียบชายหาดใหม่ พบนักท่องเที่ยวชาวเวียงจันทน์เดินทางมาเป็นกลุ่ม ชื่นชมส้มตำปูม้าหาดหัวหิน สุดยอดความอร่อย ขณะที่แม่ค้าชายหาดพร้อมรับการจัดระเบียบชายหาดใหม่ 18 ส.ค.นี้

วันนี้ (16 ส.ค.) พ.ต.ท.สถานพร สงวนสุข สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน ยังคงลงพื้นที่ชายหาดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้คำแนะนำและอธิบายให้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวถึงการแก้ปัญหาเรื่องการจัดระเบียบชายหาดหัวหิน ตลอดจนการแก้ไขปัญหาค่าอาหารที่แพงให้ถูกลง

โดยวันนี้พบว่านักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดที่เดินทางมาท่องเที่ยวต่างได้ติดตามข่าวสาร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากจะเข้าใจ และชื่นชมถึงการแก้ไขปัญหาชายหาดหัวหินแล้ว ในวันนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เดินทางมายังต้องการมาทดลองรับประทานอาหาร ตลอดจนท่องเที่ยวที่ชายหาดหัวหิน ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทยอีกด้วย

น.ส.นานงวรรณ ทองมณีวงศ์ นักท่องเที่ยวชาวเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวว่า เดินทางมาเที่ยวหัวหิน พร้อมครอบครัวรวม 11 คน ซึ่งตนเอง และครอบครัวสามารถรับชมรายการโทรทัศน์ของไทยได้ที่เวียงจันทน์ และทราบข่าวมาบ้าง แต่ไม่ได้ติดใจอะไร โดยกำหนดเดินทางมาเที่ยวที่อำเภอหัวหิน 4 วัน 3 คืน และรู้สึกประทับใจมาก เพราะหัวหินสวย อากาศดี และในวันนี้ยังมารับประทานอาหารทะเลที่หาดหัวหินด้วย

“ชื่นชอบส้มตำปูม้ามากเป็นพิเศษ เพราะรสชาติอร่อยถูกใจมาก ส่วนราคาก็ไม่ได้แพงมากแล้ว ราคาที่ปรับแก้ไขถือเป็นราคาปกติ โดยหลังจากนี้จะกลับไปเชิญชวนเพื่อนๆ และคนที่รู้จักให้มาเที่ยวหัวหินกันให้มากๆ เพราะหัวหินสวยงามมากจริงๆ และอาหารก็อร่อยมากด้วย”

ด้าน นางแก้ว นุ่มเจริญ อายุ 65 ปี ผู้ประกอบการร้านค้าที่ 2 กล่าวว่า ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกำลังได้รับการแก้ไขจนเกือบหมดแล้ว ทั้งเรื่องราคาอาหารที่มีการปรับแก้ไขราคาใหม่ ส่วนร้านค้าที่สร้างไว้กึ่งถาวรก็จะมีการรื้อออก และจัดระเบียบพร้อมกันวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคมนี้

แต่ยังพบกรณีเก้าอี้บริเวณชายหาดที่มีการให้บริการนักท่องเที่ยวบนชายหาดหัวหิน หากลูกค้าไม่ได้สั่งอาหารรับประทาน แต่ขอเช่าเก้าอี้นั่งโดยได้กำหนดราคาอยู่ที่ 20 บาทต่อ 1 ที่นั่งต่อ 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นราคาที่ทุกฝ่ายรับได้ แต่ยังพบว่า มีลูกค้าบางรายที่ยังคงบ่นว่าแพง และต่อรองขอราคา 20 บาทตลอดทั้งวัน ซึ่งหากลูกค้าไม่สั่งอาหารรับประทาน แม่ค้าก็คงอยู่ไม่ได้

แต่อย่างไรก็ตาม หากลูกค้ามานั่งสั่งอาหารรับประทานแต่ละร้านจะมีโปรโมชันของตัวเองที่จะไม่เก็บค่าเก้าอี้อยู่แล้ว ส่วนป้ายราคากลางขนาดใหญ่ที่จะติดตั้งตรงชายหาดนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และอยากให้ติดราคานานแล้ว

นางแก้ว ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตนหลังจากจัดระเบียบร้านค้าใหม่แล้ว คงจะปรับเมนูอาหารใหม่ไม่ขายอาหารซีฟูดเหมือนกับเพื่อนร้านค้าชายหาดที่เหลืออีก 21 ร้านค้าแล้ว แต่จะปรับเมนูเป็นการขายอาหารไทย และอาหารอีสาน และที่สำคัญจะขายในราคาที่ถูกลงอีก เพื่อต้องการเป็นตัวเลือกให้แก่ลูกค้าทั่วไปได้ซื้อรับประทานในราคาที่เอื้อมถึง เพราะตนก็เข้าใจดีว่าในปัจจุบันเงินทองหายากมากขึ้นมาก เพราะปัญหาราคาน้ำมันที่ไม่ปรับลดราคาลงเลย จึงทำให้หาเงินกันยากยิ่งขึ้น