ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กำลังทหาร จนท.ป่าไม้ และฝ่ายปกครองโคราช บุกตรวจจับบ่อทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ พบผิดหลายกระทง ทั้งบุกรุกป่าสงวนฯ กว่า 200 ไร่ ถมที่สาธารณะทำทางเข้า และใช้เครื่องจักรเกินกว่าอนุญาต จนท.แจ้งดำเนินคดี สั่งหยุดกิจการ และยึดแบ็กโฮ 3 คัน ด้านเจ้าของอ้างทำมา 20 ปี จนท.ป่าไม้บอกไม่รุกป่าแต่วันนี้มาแจ้งจับ จึงขอความเป็นธรรมต่อสู้คดีถึงที่สุด
วันนี้ (14 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครราชสีมา ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทหาร จากมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) กองทัพภาคที่ 2 รวมกว่า 50 นาย นำโดย นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา, นายมณี กลิ่นกาหลง หัวหน้าหน่วยรักษาป่าที่ นม.5 (ป่าดงอีจาน) บุกเข้าตรวจสอบบ่อขุดทราย ของ บริษัท ทรายสยามอุตสาหกรรม จำกัด เลขที่ 91 ม.1 ต.ช้างทอง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา
หลังประชาชนได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านกองทัพภาคที่ 2 ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการอุตสาหกรรมบ่อทรายดังกล่าว
ขณะเดินทางเข้าไปยังบ่อขุดทราย พบรถบรรทุกทรายจำนวนหลายคันวิ่งขนทรายสวนทางออกมา ทำให้ขบวนรถเจ้าหน้าที่ต้องหยุดเพื่อหลบให้รถบรรทุกทรายวิ่งผ่านเนื่องจากถนนแคบ และขณะรถบรรทุกทรายวิ่งผ่านมีฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าถึงบ่อขุดทราย นายมงคล จรรยากุล อายุ 52 ปี ผู้จัดการ บริษัท ทรายสยามอุตสาหกรรม และพนักงาน ได้ออกมาต้อนรับพร้อมให้พนักงานพยายามบันทึกภาพบรรดาเจ้าหน้าที่และผู้สื่อข่าวเอาไว้ด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงานได้ลงตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งเป็นบ่อทรายขนาดใหญ่ จำนวน 2 บ่อครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไร่ ตั้งอยู่ห่างจากลำน้ำมูลราว 20 เมตร โดยใช้เวลาตรวจสอบนานประมาณ 1 ชั่วโมง
นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ กล่าวภายหลังตรวจสอบว่า ผลการลงพื้นที่ตรวจสอบของหลายหน่วยงานพบว่า บ่อทรายของ บริษัท ทรายสยามอุตสาหกรรม ได้กระทำความผิดบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 216 ไร่ 1 งาน 67 ตารางวา ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาว่า บุกรุกครอบครองแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าช้าง และป่าหนองกระทิง
ส่วนการตรวจสอบของอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาพบว่า บริษัท ทรายสยามอุตสาหกรรม มีการใช้เครื่องจักรเกินกว่าที่ขออนุญาตถึง 654 แรงม้า โดยขออนุญาตไว้เพียง 192.5 แรงม้า เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับ โดยมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 2 ปี
นายวิจิตรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ประกอบการได้ทำการบุกรุกครอบครองที่สาธารณประโยชน์ ตะกุดฉนวน โดยทำการถมคลองตะกุดฉนวนเป็นระยะทางยาว 25 เมตร กว้างกว่า 8 เมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนสินค้าของผู้ประกอบการ ซึ่ง นายโกมินทร์ อินมะดัน นายก อบต.ช้างทอง จะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่สาธารณประโยชน์
ในส่วนของเจ้าท่าภูมิภาค ลงพื้นที่ตรวจสอบยังไม่พบการกระทำผิดในการนำน้ำเสียทิ้งลงในลำน้ำมูลแต่อย่างใด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดรถแบ็กโฮอีกจำนวน 3 คัน และให้หยุดกิจการไว้ก่อน
ด้าน นายมงคล จรรยากุล อายุ 52 ปี ผู้จัดการ บริษัท ทรายสยามอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ทรายสยามอุตสาหกรรม ได้ประกอบกิจกรรมบ่อทรายบกมานานกว่า 20 ปี โดยซื้อบ่อทรายเก่าในเนื้อที่ 50 ไร่มาจากเจ้าของรายเดิมที่ประกอบกิจการมาแล้ว 10 ปี ซึ่งได้ยื่นเอกสารขออนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ อย่างถูกต้องมาโดยตลอด และเมื่อบริษัทเข้ามาดำเนินการได้ซื้อที่ดินข้างเคียงจากชาวบ้านเพิ่มเติม ซึ่งมีเอกสารสิทธิทั้ง น.ส.3 และ ส.ค.1 รวมกว่า 142 ไร่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้เคยลงมาตรวจสอบพิกัด ระบุว่าไม่ได้รุกเขตป่าสงวนแห่งชาติแต่อย่างใด แต่มาวันนี้กลายเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ ซึ่งพิกัดที่เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบตนไม่ทราบว่าอยู่จุดไหนบ้าง ที่ผ่านมาได้ประสานกับหน่วยราชการตลอดโดยเฉพาะป่าไม้ ซึ่งระบุมาตลอดว่าไม่ได้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติแต่อย่างใด
“ฉะนั้นขอให้เรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลเพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลพร้อมสู้คดีจนถึงที่สุด และขอให้เจ้าหน้าที่เห็นใจผู้ประกอบการด้วย เพราะการปิดกิจการทำให้เสียโอกาสเสียรายได้ เพราะที่นี่ประกอบกิจการมานานถึง 20 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมาชี้ว่าผิด จึงคิดว่าไม่ยุติธรรมเลย” นายมงคลกล่าว