ระยอง - ชาวบ้านกว่า 200 คน ชูป้าย “ขอที่วัด” คืน เพื่อสร้างวิหารหลวงพ่อสอด อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่วัดปากน้ำ (สมุทรคงคา) ต.ปากน้ำ เขตเทศบาลนครระยอง ชาวบ้านกว่า 200 คน นำโดยคณะกรรมการวัดปากน้ำ ชุมนุมแสดงความไม่พอใจเจ้าของอาคาร 3 คูหา สูง 2 ชั้นครึ่ง เลขที่ 139 ถนนสมุทรเจดีย์ ซึ่งปลูกในที่ธรณีสงฆ์ของวัดปากน้ำ ทำมาหากินมานานกว่า 50 ปี ขณะที่คณะกรรมการวัดได้ไปเจรจาขอให้ย้ายออกไป เนื่องจากต้องการใช้พื้นที่สร้างวิหารหลวงปู่สอด และหลวงพ่อเสียน อดีตเจ้าอาวาส ที่มรณภาพไปแล้ว
แต่จากการเจรจาไม่เป็นที่ตกลง เนื่องจากคณะกรรมการวัดอ้างว่า เจ้าของบ้านเรียกร้องเงิน 12 ล้านบาท จึงจะยอมย้ายออกไป ต่อมา มีการเจรจากันยอมลดเหลือ 7,000,000 บาท แต่คณะกรรมการวัดยินดีให้ค่ารื้อถอน เงิน 1.5 ล้านบาท จึงไม่สามารถตกลงกันได้
วันเดียวกัน ชาวบ้านออกจากวัดไปชุมนุมที่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว ซึ่งอยู่ตรงข้ามวัด พร้อมชูป้าย “สัพเพ สัตตา ตะกวดและสัตว์ทั้งหลายๆ อย่าเบียดเบียนที่ดินของวัดอีกเลย” “ชาวตำบลปากน้ำขอที่วัดคืน” “อยู่จนรวยแล้วยังจะเรียกร้องเงินจากวัดอีกหรือ มีแต่เขาจะทำบุญให้วัด” โดยมี ร.อ.โกเมศ พินิจมนตรี นายทหารยุทธการ พัน ร.7 และเจ้าหน้าที่ทหาร เดินทางมาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมตำรวจ สภ.เมือง ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมจุดประทัดไล่ ร.อ.โกเมศ ร้องห้ามไม่ให้จุด พร้อมให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินกลับเข้าไปในวัดเพื่อเจรจากันอย่างสงบ โดยจะเชิญเจ้าของบ้านมาเจรจาร่วมกันเพื่อหาข้อยุติ กลุ่มผู้ชุมนุมยิยยอมเดินกลับไปรวมตัวกันในวัด
ขณะที่คณะกรรมการวัดได้นำหลักฐานของวัดปากน้ำ ที่ได้รับอนุญาตให้สร้างวัดเมื่อปี 2320 ระบุที่ธรณีสงฆ์วัดปากน้ำ ทิศเหนือยาว 200 เมตร จดที่ราชพัสดุ ทิศใต้ยาว 150 เมตร จดชายแม่น้ำ ทิศตะวันออกจดที่ราชพัสดุ ทิศตะวันตกจดทางสาธารณะ
ปี 2500 นายไพรัตน์ (จั๊ว) พิทักษ์บูรพา ได้มาขออนุญาตหลวงพ่อเสียน ขอใช้พื้นที่ทำมาหากิน โดยเปิดเป็นร้านอาหาร ต่อมา เลิกกิจการเปลี่ยนเป็นที่ตากหมึกสด ปัจจุบันหันไปทำธุรกิจด้านอื่น และได้ปลูกสร้างอาคาร 3 คูหา อยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ด้าน ร.อ.โกเมศ กล่าวว่า เพื่อหาข้อยุติโดยสงบ ขอให้คณะกรรมการวัดทำหนังสือร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด พิจารณาด้วยความเป็นธรรม กลุ่มผู้ชุมนุมจึงยอมแยกย้ายกันกลับ
ส่วน นางภัสสรา แซ่ลี้ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ถนนสมุทรเจดีย์ ต.ปากน้ำ บุตรสาวของนายไพรัตน์ หรือจั๊ว กล่าวว่า เรื่องนี้มีการเจรจากันมาครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา และยังไม่มีการตกลงเรื่องการรื้อถอนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ จากนั้นมาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคณะกรรมการวัดมาเจรจา แต่จู่ๆ ก็มาชุมนุมไล่ จะให้ไปนั่งเจรจาตกลงกันที่วัดแล้วใครจะไป ขอให้นัดมาไปเจรจากันที่อำเภอดีกว่า ยินดีเจรจาด้วย