xs
xsm
sm
md
lg

แรงงานเขมรโอดรับจ้างเก็บลำไยน่านไม่คุ้มค่าขึ้นทะเบียนแรงงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น่าน - แรงงานชาวกัมพูชาโอดครวญไม่มีเงินจ่ายค่าขึ้นทะเบียนคนละ 3,080 บาท บอกตามบริษัทเอกชนมารับจ้างเก็บลำไยเมืองน่านตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาฯถึงวันนี้ได้เก็บลำไยแค่ 5 วัน แถมได้ค่าแรงแค่ 40-100 กว่าบาท

วันนี้ (5 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจังหวัดน่านเปิดรับขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ตามประกาศ คสช.เพื่อบริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ปรากฏว่ามีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 256 คนมาขอขึ้นทะเบียน พร้อมกับรวมตัวเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมเกี่ยวกับค่าขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่สูงถึงรายละ 3,080 บาท เนื่องจากรายได้จากการรับจ้างเก็บลำไยไม่เพียงพอ ทั้งยังมีปัญหาเรื่องระยะเวลาและค่าตอบแทนในการทำงานกับบริษัทเอกชนที่จ้างมาเก็บลำไยไม่เป็นไปตามข้อตกลง

นางสาลี่ โคบาล อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 6 ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หัวหน้าคนงานชาวไทย เปิดเผยว่า แรงงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาจำนวน 256 คน และยังมีเด็กเล็กๆ ซึ่งเป็นลูกหลานติดตามครอบครัวมาด้วย รวมกว่า 310 ชีวิต เดินทางมาจากจังหวัดจันทบุรีเพื่อมาทำงานรับจ้างเก็บลำไยให้ หจก.จันทร์เขียว ที่เปิดรับซื้อลำไยในสวนลำไยจังหวัดน่าน ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 57

แต่จนถึงขณะนี้บริษัทให้ออกทำงานเก็บลำไยเพียง 5 วันและในแต่ละวันก็ได้ค่าจ้างเพียงวันละ 40-100 กว่าบาทเท่านั้น ไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่เคยอ้างว่าจะมีรายได้นับหมื่นนับแสนบาท และที่ผ่านมาแม้จะมีบริษัทอื่นมาขอให้ไปทำงานด้วย แต่ หจก.จันทร์เขียวมีเงื่อนไขว่า หากบริษัทอื่นต้องการแรงงานกลุ่มนี้จะต้องจ่ายค่าตัวคนละ 5,000 บาท เมื่อรวมกับค่าขึ้นทะเบียนด้วยจะต้องจ่ายถึง 8,080 บาทจึงจะได้แรงงานไป

นางสาลี่บอกว่า ตอนนี้แรงงานชาวกัมพูชากลุ่มนี้ไปไหนไม่ได้ และไม่มีงานเก็บลำไย รายได้ก็ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวไม่ได้ ผู้ที่รับผลกระทบมากที่สุดคือ หัวหน้าคนงานประมาณ 10 คน ที่เป็นคนดูแล ซึ่งส่วนใหญ่ได้ออกเงินสำรองให้แรงงานไปแล้วบางส่วนที่ต้องการใช้เงิน

“หวังว่าจะได้รับเงินคืนจาก หจก.จันทร์เขียว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ รวมทั้งหากมีการส่งแรงงานกัมพูชากลับประเทศ เท่ากับว่าหัวหน้าคนงานที่ได้สำรองเงินไปแล้วนับแสนบาท ทั้งค่าน้ำมันรถ ค่ากินอยู่ของแรงงาน อาจจะกลายเป็นหนี้สูญ หากบริษัทไม่คืนเงินให้”

ด้านนายวชิรวิชย์ จันทร์เขียว เจ้าของ หจก.จันทร์เขียว เปิดเผยว่า ได้นำแรงงานมาทั้งหมด 256 คน ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องแล้ว เดินทางมารับเหมาเก็บลำไยเป็นปีที่ 2 ซึ่งได้ทำสัญญาไว้ประมาณ 1,000 กว่าสวน ในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือนครึ่ง มีค่าใช้จ่ายต่างๆ หลายแสนบาท โดยบริษัทออกเงินให้ก่อนรายละ 5,000-6,000 บาท

ส่วนปัญหาค่าแรงคนงานที่เกิดขึ้น เป็นเพราะผลผลิตลำไยไม่ได้คุณภาพที่จะสามารถบรรจุลงตะกร้าได้ และเป็นลำไยร่วง นอกจากนี้ยังมีปัญหาทำงานไม่ต่อเนื่อง เพราะภาครัฐให้นำแรงงานมาขึ้นทะเบียน ทำให้คนงานไม่สามารถเก็บลำไยได้ตลอด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เพิ่งจะเริ่มเก็บได้เพียง 10 กว่าสวนเท่านั้น จากทั้งหมดที่รับเหมาไว้กว่า 1,000 สวน หมายความว่าแรงงานกลุ่มนี้มีงานทำต่อเนื่องแน่นอน

ส่วนการขอเรียกเงินค่าตัวแรงงานจากบริษัทอื่น เนื่องจากแรงงานทั้งหมดยังอยู่ในความรับผิดชอบของ หจก.จันทร์เขียว และทั้งหมดก็มีค่าใช้จ่ายที่ทางบริษัทออกให้ก่อน ขณะที่บริษัทอื่นจะมาขอแรงงานไปทำงาน ทาง หจก.จันทร์เขียวจึงต้องขอให้ช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายบ้างเพื่อลดภาระต้นทุน ขณะนี้ได้พยายามอธิบายให้แรงงานเข้าใจถึงสถานการณ์แล้ว

ด้านนายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน หลังรับทราบปัญหา ได้ประชุมหารือเร่งด่วน พร้อมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการ ลงนามทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อจะแก้ไขปัญหา โดยสรุปว่าแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานรับจ้างเก็บลำไยในพื้นที่จังหวัดน่านเป็นการทำงานเฉพาะฤดูกาลในห้วงเวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งค่าขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวจะอยู่ที่รายละ 1,305 บาท

เมื่อครบกำหนด 2 เดือนแล้ว แต่บัตรยังระบุว่าทำงานในจังหวัดน่านถึง 31 มี.ค. 58 (6 เดือนตามที่ คสช.กำหนด) ก็จะใช้วิธีให้นายจ้างเก็บบัตรแรงงานต่างด้าวตัวจริงส่งคืนให้ทางปกครองจังหวัดน่าน และให้สำเนาบัตรไว้ให้แรงงานถือติดตัว เพื่อแสดงถึงการขึ้นทะเบียนที่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้แรงงานสามารถกลับไปทำงานที่จังหวัดจันทบุรีได้ และทางหน่วยงานภาครัฐก็สามารถควบคุมการขึ้นทะเบียนได้ด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น