ประจวบคีรีขันธ์ - ทหารมณฑลทหารบกที่ 15 พร้อมฝ่ายปกครอง อุตสาหกรรมจังหวัด และชาวบ้านหินเหล็กไฟ เข้าตรวจสอบโรงงานสับปะรดแห่งหนึ่งที่ของอำเภอหัวหิน ที่ปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ และส่งกลิ่นเหม็น ภายหลังชาวบ้านร้องเรียน หลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบจึงมีคำสั่งให้เร่งปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย หากพบยังมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
วันนี้ (2 ส.ค.) พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 15 พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รองผู้บังคับการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอนุวัต เต็มชัย ปลัดอำเภอ นายนาวิน มูลมงคล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหินเหล็กไฟ
พร้อมด้วยตัวแทนจากอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และชาวบ้านตำบลหินเหล็กไฟ ได้เดินทางไปร่วมกันตรวจสอบโรงงานแปรรูปสับปะรด ชื่อ บริษัท คลอลิตี้ ไพน์แอปเปิล โปรดักส์ จำกัด ตั้งอยู่ริมถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี หมู่ 3 บ้านนกน้อย ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากชาวบ้านในหมู่ 1, 2, 3 และ 10 มีการร้องเรียนว่าโรงงานดังกล่าวทำการปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ ห้วยสามพันนาม จนทำให้น้ำเน่าเสีย ไม่สามารถนำมาใช้เพื่อการเกษตรกรรม
รวมทั้งโรงงานดังกล่าวยังส่งกลิ่นเหม็นไปเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมา มีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านได้ อีกทั้งทางโรงงานก็ไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจต่อชาวบ้าน
ในครั้งนี้ได้มีการประชุมร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้าน และข้อชี้แจงของทางโรงงานสับปะรด โดยตัวแทนชาวบ้านได้กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งการส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน และนักเรียนที่อยู่ใกล้เคียง โดยเฉพาะช่วงกลางคืนจะมีกลิ่นมาก บางครั้งเกิดอาการปวดหัว กระทบต่อการดำรงชีวิต ปัญหาน้ำเน่าเสีย ซึ่งทางโรงงานสับปะรด ปล่อยลงคลองสาธารณะจนมีสีเขียวเข้ม ทำให้สัตว์น้ำตาย
จนชาวบ้านไม่สามารถนำน้ำในคลองไปใช้ประกอบการเกษตรได้ บางรายมีการนำน้ำในคลองไปรดน้ำต้นไม้ก็ทำให้พืชผลเสียหาย ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นมานานกว่า 2 ปี โดยทางโรงงานยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบ หรือแสดงความจริงใจต่อชาวบ้าน ชาวบ้านในพื้นที่จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน รวมทั้งอยากให้โรงงานเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ขณะที่ผู้แทนฝ่ายโรงงานแปรรูปสับปะรด ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาโรงงานได้สร้างปัญหาให้แก่ชุมชน และไม่มีการสื่อสารทำความเข้าใจต่อชุมชนถึงการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งภายหลังได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นก็ได้มีการเร่งแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว ทั้งการแก้ไขความเป็นกรดของน้ำ ให้มีค่าความเป็นกรดด่างในระดับที่ดีขึ้นก่อนปล่อยออกไป และการเติมสารเคมีเพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งขณะนี้ก็ยอมรับว่ายังมีปัญหาอยู่แต่ก็พยายามทำให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน ตอนนี้ทางโรงงานอยู่ระหว่างการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียใหม่ด้วยงบประมาณเกือบ 20 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2557 และจะเปิดระบบได้ทั้งหมดในเดือนมกราคม 2558 คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งทางโรงงานเองจะมีการสื่อสารต่อชุมชนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่โรงงานสับปะรด ได้นำทหารมณฑลทหารบกที่ 15 ฝ่าย ปกครองอำเภอหัวหิน เจ้าหน้าที่ อบต.หินเหล็กไฟ เจ้าหน้าที่อุสาหกรรมจังหวัดประจวบฯ ตลอดจนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบตรวจสอบการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงาน
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการทำข้อตกลงร่วมกันในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้สั่งให้ทางโรงงานสับปะรด เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว และจะมีการติดตามผลความคืบหน้าภายใน 15 วัน หากพบว่ายังมีการปล่อยน้ำเสีย และมีการส่งกลิ่นเหม็นอีก จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด และอาจสั่งปิดโรงงานสับปะรดแห่งนี้ต่อไป