เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (1 ส.ค.) ชาวบ้านใน ต.โนนสูง ต.หัวนาคำ และ ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กว่า 200 คน นำโดยนายบุญมา นวศรี นายอินทะหวา ภูผาด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและลูกหลาน เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบนายไพฑูรย์ จรทะผา ประธานชมรมผู้สูงอายุ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนจรชนะศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชน พร้อมคณะกรรมการชมรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตข้าราชการครูที่เกษียณอายุ
หลังจากชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุไม่ได้รับเงินค่าฌาปนกิจศพ และคณะกรรมการยังเรียกเก็บเงินเพิ่มจากเดิมศพละ 20 บาท แต่ปัจจุบันเก็บเงินศพละ 50 บาท แต่กลับลดจำนวนเงินที่จะจ่ายค่าฌาปนกิจ จากเดิมจ่ายศพละ 40,000 บาท เหลือศพละ 15,000-20,000 บาท ซึ่งชาวบ้านระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกรงว่าอาจจะไม่ได้เงินคืน
การเข้าร้องเรียนครั้งนี้ มีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ และนายไชยา เครือหงส์ รองหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เป็นผู้รับเรื่อง
นายอินทะหวา ภูผาด อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.12 ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มาตั้งแต่ปี 2545 โดยแต่ละเดือนประธานชมรม คือนายไพฑูรย์ จรทะผา ประธานชมรมผู้สูงอายุ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนจรชนะศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาลเอกชน และคณะกรรมการชมรม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่เกษียณอายุจะมาเก็บค่าฌาปนกิจศพจากสมาชิกใน 3 ตำบล ที่ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 702 คน
ที่ผ่านมาคณะกรรมการจะเก็บศพละ 20 บาท แต่ละเดือนสมาชิกจะต้องจ่ายเฉลี่ยคนละ 300-400 บาท ขึ้นอยู่กับว่าในแต่ละเดือนจะมีผู้เสียชีวิตกี่คนด้วย จากนั้นหากสมาชิกเสียชีวิตก็จะได้รับเงินค่าฌาปนกิจรายละ 40,000 บาท แต่ต่อมาระยะหลังประธานและคณะกรรมการชมรมได้แจ้งว่าจะเพิ่มการเก็บเงินในแต่ละเดือนจากเดิมเก็บศพละ 20 บาท เป็นศพละ 50 บาท และจะลดจำนวนเงินที่จ่ายค่าฌาปนกิจ จากเดิมจ่ายศพละ 40,000 บาท เหลือ 15,000-20,000 บาท แต่ละคนจ่ายเงินไปก่อนหน้านี้นานกว่า 10 ปี มียอดเงินรวมเฉลี่ย 40,000 บาท แต่กลับจะมาได้เงินคืนเพียง 15,000 บาท ซึ่งเป็นภาระที่หนักเกินไป และถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้าน
นายอินทะหวากล่าวอีกว่า ตนและสมาชิกได้สอบถามไปยังประธานและคณะกรรมการชมรมหลายครั้ง ได้รับคำตอบว่าสาเหตุที่ลดจำนวนเงินที่จ่ายและเพิ่มจำนวนเงินที่เก็บนั้น เนื่องจากปัจจุบันสมาชิกมีจำนวนลดลงและเหลือน้อยจึงจำเป็นต้องเก็บเพิ่ม ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินคืน
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีสมาชิกเสียชีวิตไปแล้วหลายรายแต่ไม่ได้รับเงินค่าฌาปนกิจ จึงเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมดังกล่าว พร้อมให้ตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของชมรมทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น
ด้านนางครองสิน หงส์ศรี อายุ 54 ปี ชาวบ้านหนองไผ่ ต.โนนสูง อ.ยางตลาด กล่าวว่า นางมี ภูผาทิพย์ อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นยาย และเป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ ปัจจุบันได้เสียชีวิตและฌาปนกิจไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งตนเป็นญาติและเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ แต่กลับไม่ได้รับเงินค่าฌาปนกิจจากชมรม
ทั้งๆ ที่ตนจ่ายเงินให้ชมรมทุกเดือนมาตั้งแต่ปี 2545 นานกว่า 10 แล้ว จึงมั่นใจว่าจะถูกเบี้ยวไม่จ่ายเงิน จึงเดินทางพร้อมเพื่อนบ้านที่เป็นสมาชิกมาขอความเป็นธรรมจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่นายไชยา เครือหงษ์ รองหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นนายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านไว้แล้ว พร้อมกับเสนอเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชา และประสานไปยังนายอำเภอยางตลาด เจ้าของพื้นที่ ให้เร่งดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน
โดยจะต้องเรียกตัวนายไพฑูรย์ จรทะผา ประธานชมรมผู้สูงอายุ พร้อมด้วยคณะกรรมการ และชาวบ้านที่เป็นสมาชิกทุกคนเข้ามาเจรจากันก่อน เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ เท่าที่สอบถามเบื้องต้นจากนายไพฑูรย์ ซึ่งนำเอกสารสมุดรายรับรายจ่ายมาอ้างว่ามียอดเงินที่จ่ายให้สมาชิกไปแล้ว 28 ล้านบาท พร้อมบอกถึงสาเหตุที่เพิ่มการเก็บเงินจากศพละ 20 บาท เป็น 50 บาท และลดการจ่ายเงินลงนั้นก็เพราะปัจจุบันสมาชิกเหลือน้อย และลดลงเรื่อยๆ จากเดิมมีสมาชิกกว่า 1,200 คน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 702 คน ทำให้ชมรมเหลือเงินน้อย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะต้องเรียกทุกฝ่ายมาเจรจาตกลงกันเพื่อหาข้อยุติในเร็วๆ นี้