สอ.รฝ.สวนสนาม แสดงแสนยานุภาพกำลังรบ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สอ.รฝ. กองทัพเรือ จัดพิธีสวนสนามยานยนต์ของกำลังพล แสดงแสนยานุภาพ และกำลังรบของหน่วยที่มีความเข้มแข็ง

วันนี้ (31 ก.ค.) พล.ร.ต.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) กองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีสวนสนามยานยนต์ของกำลังพล สอ.รฝ. ที่ลานสวนสนามหน้ากองบัญชาการ สอ.รฝ. อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อแสดงแสนยานุภาพ และกำลังรบของหน่วยที่มีความเข้มแข็ง ธำรงขีดความสามารถด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และกำลังพล

สำหรับขบวนสวนสนามยานยนต์ มี น.อ.จีระ มิตรดี ผู้บังคับการกองการฝึกพลทหาร เป็นผู้บังคับกรมผสม นำทหาร 5 กองพัน กำลังพล 550 นาย ยานพาหนะ 62 คัน และอาวุธยุทโธปกรณ์ 28 กระบอก โดยขบวนยานยนต์ 4 กองพัน ประกอบด้วย กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 1 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์ จากกรมต่อสู้ยานที่ 1 มีปืนต่อสู้อากาศยาน 37 มิลิเมตร แท่นคู่ 8 แท่น และเครื่องควบคุมการยิงไดเร็กเตอร์ 5M1 จำนวน 4 ระบบ

กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 2 จัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์จากกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 โดยมีปืนต่อสู้อากาศยาน 40/70 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องควบคุมการยิงฟลายแคชเชอร์ 2 ระบบ ปืนต่อสู้อากาศยาน 40/60 มิลิเมตร 6 กระบอก อาวุธปล่อยนำวิถีแบบประทับบ่ายิง จำนวน 2 ระบบ

กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 3 จัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ จากกรมรักษาฝั่งที่ 1 ศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และกรมสนับสนุน โดยมีปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้ง 155 มิลลิเมตร 6 กระบอก และปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีราบ 130 มิลิเมตร 6 กระบอก รถหัวลากชานต่ำ 16 คัน

กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 4 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง โดยมีนายเรดาร์ และเรดาร์ตรวจการณ์เคลื่อนที่บอเอ 550 จำนวน 2 ชุด

กองพันสวนสนามยานยนต์ที่ 5 เป็นพันสวนสนามวิ่งจัดกำลังพลจากศูนย์การฝึกหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง

พล.ร.ต.ลือชัย กล่าวว่า การสวนสนามยานยนต์ถือเป็นการฝึกสวนสนามที่มีความสำคัญ เพื่อการแสดงออกถึงความพร้อมของระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ ของหน่วยบัญชาการ สอ.รฝ. ที่มีไว้ใช้ราชการ และบำรุงรักษาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้มีความพร้อม และใช้ในราชการได้ตลอดเวลา รวมทั้งเป็นการแสดงถึงศักยภาพของหน่วย ที่เป็นหน่วยกำลังรบหลักที่สำคัญหน่วยหนึ่งของกองทัพเรือ จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านองค์วัตถุ องค์บุคคล และองค์ยุทธวิธี ให้อยู่ในสภาวะที่มีความพร้อม และสามารถปฏิบัติงานได้ เพื่อรองรับต่อภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นภายในประเทศ และปฏิบัติตามที่หน่วยเหนือสั่งการได้ทันท่วงที เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้