สกว.ผนึก ม.ขอนแก่น เล็งพัฒนาส้มโอชัยภูมิ ชูอัตลักษณ์เนื้อสีแดง มั่นใจมีสารต้านมะเร็ง

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สกว.จับมือ มข.เซ็น MOU “ระบบการผลิตส้มโอคุณภาพดี เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของส้มโอชัยภูมิ” พบส้มโอจากแหล่งปลูกที่ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ จุดเด่นเนื้อสีแดงเข้ม เชื่อมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่พบจุดด้อยชาวสวนขาดองค์ความรู้การจัดการที่ดี ชี้เตรียมศึกษาพัฒนาจัดการเพาะปลูก คาดใช้เวลา 1 ปีเพิ่มศักยภาพการผลิต ขยายลู่ทางตลาดเพิ่ม

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องราชพฤกษ์ 4 โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ จ.ขอนแก่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “ระบบการผลิตส้มโอคุณภาพดี เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของส้มโอชัยภูมิ” เพื่อร่วมกันพัฒนาคุณภาพของส้มโอชัยภูมิให้มีคุณภาพ หลังพบว่าเมื่อนำส้มโอมาปลูกในพื้นที่ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ เนื้อส้มโอมีสีแดงเข้ม โดยนักวิชาการ มข.ได้ทำการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาส้มโอออกสู่ตลาดอย่างมีคุณภาพ

รศ.ดร.สังคม เดชะวงศ์เสถียร อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มข. กล่าวว่า ที่ผ่านมา มข.มีงานวิจัยกับ สกว.เรื่องส้มโอที่ อ.บ้านแท่น ซึ่งเป็นอีกพื้นที่ที่ปลูกส้มโอในเชิงพาณิชย์ พบว่าเนื้อส้มโอมีสีแดง ถือเป็นเอกลักษณ์ของส้มโอที่นี่ น่าจะเกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยส้มโอที่มีเนื้อสีแดงในประเทศไทยขณะนี้ ได้แก่ ส้มโอทองดี ส่วนพันธุ์ที่เนื้อสีแดงจัด คือ พันธุ์ทับทิมสยามในภาคใต้

“ส้มโอเนื้อสีแดงมีคุณค่าทางอาหาร เนื่องจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านมะเร็ง ถือเป็นจุดขายที่ดีของส้มโอจังหวัดชัยภูมิ แต่ระบบการจัดการเพาะปลูกของเกษตรกรยังไม่พัฒนา เป็นการจัดการแบบชาวบ้าน ขาดองค์ความรู้ในการเพาะปลูก ขาดการบำรุงด้วยปุ๋ย ทำให้รสชาติไม่คงที่”

รศ.ดร.สังคมกล่าวว่า ส้มโอเนื้อสีแดงที่ อ.บ้านแท่น เป็นการนำพันธุ์จากที่อื่นมาปลูก แต่ด้วยสภาพดินและน้ำทำให้เนื้อส้มโอที่ อ.บ้านแท่นมีสีแดงเข้ม ที่สำคัญยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ ขณะนี้อยู่ระหว่างทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการปลูก และคุณค่าของสารอาหารในส้มโอ

ทั้งนี้ จากจุดเด่นที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ จะเป็นจุดขายที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรใน อ.บ้านแท่น เพราะโดยปกติส้มโอทับทิมสยามราคาผลละ 280-300 บาท แต่ชาวบ้านขายริมถนน 3 ผล 100 บาท หากได้ต่อยอดเชิงวิชาการ ด้วยการจัดการปุ๋ย จัดการน้ำ ทำผลให้สวย รสชาติคงที่แน่นอน จะสามารถขยายตลาด เพิ่มมูลค่าทางตลาดได้อย่างแน่นอน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาศึกษาเพิ่มเติมกว่า 1 ปีหรือเร็วกว่านั้น