สุรินทร์ - “ซัมซุง ฮีโร่” มือถือยอดนิยมแก๊งค้ายาบ้าเครือข่ายในเรือนจำสั่งโยนเข้าคุก เหตุทนทานต่อแรงกระแทก ล่าสุดจับได้โยนเข้าเรือนจำรัตนบุรี สุรินทร์อีก 6 เครื่อง แฉหันปฏิบัติการกลางวันแสกๆ เพราะเห็นจุดตกชัดเจนซุกซ่อนได้เร็ว และมีแก๊งรับจ้าง “เก็บยัดก้น” คอยรับงาน จนท.จับตานักโทษขาใหญ่ยาเสพติดย้ายมาใหม่
วันนี้ (31 ก.ค.) นายวิรัตน์ ปานศรี ผู้บัญชาการเรือนจำรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เรือนจำรัตนบุรีว่า ได้ยินเสียงวัตถุตกกระทบหลังคาโรงอาบน้ำของนักโทษชายแดน 2 จึงสั่งการให้ นายกังสดาล บุตรประเสริฐ นักทัณฑวิทยาชำนาญการ เรือนจำรัตนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและค้นหาที่มาของเสียงตกภายในเรือนจำและบริเวณรอบเรือนจำ พบวัตถุต้องสงสัยถูกพันด้วยเทปกาวสีดำเป็นก้อนหนาแน่น ตกอยู่ในร่องน้ำติดทางเดินใกล้กำแพงเรือนจำ จำนวน 1 ห่อ และพบบนหลังคาโรงอาบน้ำนักโทษชายอีก 1 ห่อ
จึงเก็บมาเปิดตรวจสอบดู พบว่าภายในมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นฮีโร่ อยู่มัดละ 3 เครื่อง และแต่ละมัดมีอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ถูกแยกชิ้นส่วนแล้วอีกมัดละ 2 ชุด รวมโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 มัด 6 เครื่อง ที่ชาร์จแบตเตอรี่ 4 เครื่อง จึงยึดอายัดไว้ตรวจสอบพร้อมทำการสืบสวนผู้ต้องขังต้องสงสัยทั้งหมด เพื่อเร่งหาตัวผู้บงการให้โยนโทรศัพท์ลึกลับเข้าไปในเรือนจำดังกล่าว
เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องขังภายในเรือนจำมีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ต้องการนำโทรศัพท์ไปไว้ติดต่อเพื่อการค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายแน่นอน เพราะทางเรือนจำไม่ได้อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ภายในเรือนจำ ประกอบกับขณะนี้ทางเรือนจำได้ให้เฝ้าจับตานักโทษคดียาเสพติดขาใหญ่บางรายที่ถูกย้ายมาจากเรือนจำอื่นเป็นพิเศษ จึงทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้มงวดจนสามารถตรวจพบและยึดโทรศัพท์ของกลางได้ดังกล่าว
“ส่วนผู้ต้องหาที่โยนโทรศัพท์มือถือไม่สามารถจับกุมได้เพราะจุดที่โยนเข้าไปนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด โดยทางเรือนจำจะได้แก้ไขปัญหาและจัดหางบประมาณมาซื้อกล้องวงจรปิดติดตั้งเพิ่มเติมให้รอบเรือนจำต่อไป แต่ขณะนี้ยังขาดงบประมาณสนับสนุนอยู่” นายวิรัตน์กล่าว
นายวิรัตน์กล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรการป้องกันนั้น ยังได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง สภ.รัตนะบุรีให้ช่วยส่งสายตรวจมาดูแลพื้นที่รอบเรือนจำเพิ่มเติม เนื่องจากทางเรือนจำมีบุคลากรน้อยดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งขณะนี้เวลากลางวันเป็นช่วงเสี่ยงที่สุดเพราะการโยนโทรศัพท์ช่วงกลางวันนักโทษจะเห็นได้เร็วและชัดเจนว่าโทรศัพท์ถูกโยนเข้ามาจุดใดแล้วรีบเก็บไปซุกซ่อน หากโยนช่วงกลางคืนเป็นเวลาที่นักโทษทั้งหมดถูกให้เข้านอน โทรศัพท์จะตกค้างและในช่วงเช้าผู้คุมออกเดินตรวจตราจะพบเห็นก่อน
โดยเมื่อสามารถโยนโทรศัพท์เข้ามาในเรือนจำได้แล้วจะมีแก๊งรับจ้างที่เป็นนักโทษที่มีความสามารถในการซ่อนโทรศัพท์โดยการเอายัดไว้ในก้นรอรับงาน เพราะผู้คุมไม่สามารถตรวจเจอเนื่องจากไม่มีเครื่องสแกน ซึ่งแก๊งนี้จะได้ค่าจ้างในการเก็บโทรศัพท์ 3,000 บาทต่อเดือน ส่วนผู้รับจ้างโยนข้าเรือนจำจะเป็นคนจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง
“สิ่งที่ทางเรือนจำต้องการมากที่สุดตอนนี้คืออุปกรณ์ในการตรวจจับ เช่น เครื่องสแกนร่างกาย และกล้องวงจรปิด เพื่อง่ายในการตรวจหาตัวผู้กระทำผิด แต่ยังขาดงบประมาณสนับสนุน” นายวิรัตน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หากโทรศัพท์มือถือถูกโยนเข้าไปถึงขาใหญ่เครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำได้จะมีราคาสูงถึงเครื่องละ 6-7 หมื่นบาท และผู้โยนเข้าไปจะเลือกโทรศัพท์ที่มีความทนทานต่อแรงกระแทกสูง โดยเฉพาะยี่ห้อซัมซุง รุ่นฮีโร่ ที่ทนทานต่อแรงกระแทกและมีราคาถูกจึงเป็นที่นิยมมากที่สุด
