อ่างทอง - อีก 2 วันหวยออก ชาวบ้านในอ่างทอง และนักเสี่ยงโชคเริ่มไปขอโชคลาภจาก “แม่มะขามคนงามป่าโมก” กับ “พ่อขนมต้ม” พร้อมนำเครื่องสำอางแต่งหน้า และนวมถวายหลังประสบความสำเร็จ
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่บริเวณศาลา “แม่ช่อมะขามคนงามบ้านป่าโมก” และ “พ่อขนมต้ม” ยอดนักมวยไทยสมัยกรุงที่อยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดป่าโมกวรวิหาร ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้มีนักท่องเที่ยว และประชาชนจากหลายพื้นที่โดยเฉพาะนักเสี่ยงโชค เริ่มนำเครื่องเซ่นไหว้เดินทางมากราบไหว้ขอพร ขอความรัก และโชคลาภจาก “แม่ช่อมะขามคนงามบ้านป่าโมก” และ “พ่อขนมต้ม” เนื่องจากเหลืออีกเพียงแค่ 2 วันก็จะถึงวันหวยออก
แม่ชีสำรวล มีสอน อายุ 75 ปี ผู้ดูแล “แม่ช่อมะขามคนงามบ้านป่าโมก” และ “พ่อขนมต้ม” เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา จะมีหญิงสาวจำนวนมากเดินทางมากราบขอพร ความรัก และโชคลาภ รวมทั้งหน้าที่การงานต่อ “แม่มะขาม” หลังจากขอได้สมปรารถนาแล้วก็จะนำเครื่องสำอางแต่งหน้าทาเล็บมาถวาย พร้อมชุดไทย และมีดดาบ
ส่วนผู้ชายจะมาไหว้ขอพร “พ่อขนมต้ม” ส่วนมากจะเป็นนักมวยเดินทางมากราบไหว้ และเมื่อสมปรารถนาแล้วก็จะนำเหล้าขาว มะขามเปียก พร้อมเกลือมาถวาย พร้อมนวมที่ใช้ชกมวย และกางเกงนักมวย
“คนที่มานอกจากจะมาขอพร ขอความรัก ขอให้หน้าที่การงานมีความเจริญรุ่งเรืองแล้ว ยังมีการขอโชคลาภจากแม่ช่อมะขาม และพ่อขนมต้มด้วย”
อนึ่ง สำหรับ “นายขนมต้ม” เป็นนักมวยคาดเชือกชาวกรุงศรีอยุธยา เกิดที่ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรนายเกิด และนางอี่ มีพี่สาวชื่อนางเอื้อย ทั้งพ่อแม่ และพี่ถูกพม่าฆ่าตายหมด และต้องไปอยู่วัดตั้งแต่เล็ก นายขนมต้ม ถูกพม่ากวาดต้อนไปเชลยในระหว่างเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2
นายขนมต้ม มีชื่อเสียงในเชิงมวยเป็นที่เลื่องลือ ในพงศาวดารบันทึกว่า เมื่อพระเจ้ามังระ โปรดให้ปฏิสังขรณ์ และก่อเสริมพระเจดีย์ชเวดากองในเมืองย่างกุ้งเป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จลงในปี พ.ศ.2317 พอถึงวันฤกษ์งามยามดี คือวันที่ 17 มีนาคม จึงโปรดให้ทำพิธียกฉัตรใหญ่ขึ้นไว้บนยอดเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองอย่างมโหฬาร ขุนนางพม่ากราบทูลว่า “นักมวยไทยมีฝีมือดียิ่งนัก”
พระเจ้ามังระ จึงตรัสสั่งให้เอาตัวนายขนมต้ม นักมวยดีมีฝีมือตั้งแต่ครั้งกรุงเก่ามาถวาย พระเจ้ามังระ ได้ให้จัดมวยพม่าเข้ามาเปรียบกับนายขนมต้ม โดยจัดให้ชกต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฏว่า นายขนมต้ม ชกพม่าไม่ทันถึงยกก็แพ้ถึงเก้าคนสิบคนก็สู้ไม่ได้ พระเจ้ามังระ ทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระตรัสสรรเสริญนายขนมต้มว่า “คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคน นี่หากว่ามีเจ้านายดี มีความสามัคคีกัน ไม่ขัดขากันเอง และไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว และโคตรตระกูลแล้ว ไฉนเลยกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ข้าศึก ดั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้”
เหตุการณ์ที่ นายขนมต้ม ชกชนะนักมวยพม่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2317 ได้เคยมีการจัดให้วันที่ 17 มีนาคม เป็นวันมวยไทย เพื่อเป็นเกียรติประวัติต่อนักมวยไทย นอกจากนี้ ชาวพระนครศรีอยุธยา ได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์นายขนมต้ม ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ส่วน “เจ้าแม่ช่อมะขามคนงามป่าโมก” นั้นสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แม่ช่อมะขาม เป็นหญิงงามที่ร่วมรบกับชาวป่าโมก ออกสู้กับศึกพม่า สละชีพเพื่อแผ่นดินไทย สมเป็นสตรีไทยใจหาญ แห่งบ้านป่าโมก เป็นคู่ใจของนายขนมต้ม ผู้สร้างตำนานมวยไทย คราวพม่ายกกองทัพผ่านป่าโมก เพื่อไปตีกรุงศรีอยุธยา แม่ช่อมะขาม และพ่อขนมต้ม เป็นผู้นำชาวบ้านต่อสู้กับพม่าจนตัวตาย สละชีพเพื่อรักษาชาติ สมกับเป็นวีรไทยใจใจกล้าของชาวป่าโมก จนเป็นตำนานเล่าขานตราบทุกวันนี้
ต่อมา พระป่าโมกข์มุนี เจ้าอาวาสวัดป่าโมกวรวิหาร เป็นผู้นำหล่อเจ้าแม่ช่อมะขาม เมื่อวันที่ 18 เดือนกันยายน พ.ศ.2541 ตรงกับวันแรม 9 ค่ำเดือน 7 ปีขาล เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 42,000 บาทเป็นอนุสรณ์ของชาวป่าโมก เครื่องสังเวย ขนมต้ม ไข่ต้ม ช่อมะขาม หมากพลู ลิเก ละครรำ ชุดไทย ดาบ เมื่อใดมีจิตศรัทธา จะสมปรารถนาทุกประการ