มุกดาหาร-มุกดาหารจัดประชุม พัฒนาความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในระดับจังหวัดและท้องถิ่นฯ เผยเสนอขยายเส้นทางเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ พัฒนาพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มเส้นทางการบินพาณิชย์ระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-สะหวันนะเขต-เว้ และตั้งคณะกรรมการร่วมพัฒนา เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร-เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เซโน ชี้ทั้ง 3 ฝ่ายพร้อมนำเสนอรัฐบาลแต่ละประเทศพิจารณา
วันนี้ (29ก.ค.57) ที่โรงแรมมุกดาหาร แกรนด์ โฮเต็ล อำเภอเมืองมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ท่านคำเผย ผันทะจอน รองเจ้าแขวงสะหวันนะเขต และนายเหงียน ฮิว หยุง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกวางตรี เป็นประธานร่วมการ ประชุมคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดมุกดาหาร-แขวงสะหวันนะเขต จังหวัดกวางตรี
ที่ประชุมให้พิจารณารับรองบันทึกผลการประชุมของกองเลขาคณะผู้แทนทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วยฝ่ายจังหวัดมุกดาหารมีนายทวีศักดิ์ ชีวะสุทโธ พาณิชย์จังหวัดเป็นหัวหน้าคณะ แขวงสะหวันนะเขต มีท่านลำเงิน ทองสีอักสอน หัวหน้าห้องว่าการปกครองแขวงสะหวันนะเขต เป็นหัวหน้าคณะ และจังหวัดกวางตรี มีนายก๊วก โฮ เหียบเงี้ย รองหัวหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์สามฝ่ายระหว่างมุกดาหาร สะหวันนะเขตและกวางตรี
ในที่ประชุมมีการหารือใน 5 ประเด็นประกอบด้วย 1.การปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภาคลุ่มน้ำโขง โดยสาระสำคัญคือการยอมรับสิทธิการจราจรและพาหนะเรื่องพวงมาลัยรถซ้าย-ขวา ระหว่างไทยกับเวียดนาม และพิธีศุลกากรตรวจปล่อยสินค้า ณ จุดเดียว 2.การขยายเส้นทางเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ โดยฝ่ายลาว เสนอขอเดินรถโดยสารไปสิ้นสุดที่กรุงเทพฯ ฝ่ายไทยเสนอผ่านสะหวันนะเขต-เว้-ดานัง ของเวียดนาม
3.พิธีการตรวจคนเข้าเมือง พรมแดนมุกดาหาร สะหวันนะเขต ให้มีการพัฒนาการตรวจเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เหมือนกับด่านพรมแดน แดนสะหวัน แขวงสะหวันนะเขต กับลาวบาว กวางตรี เวียดนาม และ 4.การเพิ่มเส้นทางการบินพาณิชย์ ระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ-สะหวันนะเขต-เว้ 5. การจัดตั้งคณะกรรมการร่วมพัฒนา เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร-เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เซโน แขวงสะหวันนะเขต
ทั้งนี้ประธานร่วมทั้ง 3 ฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นและข้อแนะนำเพิ่มเติม ที่จะเกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งไทย ลาว และเวียดนาม ได้ร่วมลงนามในบันทึกการประชุม เพื่อให้แต่ละฝ่ายจะได้นำไปพิจารณานำเสนอรัฐบาลของแต่ละประเทศต่อไป