น่าน - ผู้ว่าฯ น่านสั่งเตรียมพร้อมรับมือตลอด 24 ชม.หลังพบดินแยกที่บ่อเกลือทรุดตัวเพิ่ม ชาวบ้านผวาดินสไลด์ลงน้ำมางกลายเป็นโคลนถล่มลง 7 หมู่บ้าน และนาข้าวด้านล่างอีกกว่า 300 ไร่ ชี้ “บ้านบ่อหลวง” เสี่ยงสุด
วันนี้ (23 ก.ค.) นายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อม พ.อ.จตุรภัทร วงศ์ศรีเผือก ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 อ.ปัว จ.น่าน และนายวิรัช วรรณมาลิกพันธ์ นายอำเภอบ่อเกลือ, แขวงการทางเขต 2 และนายนิธิวัฒน์ นิธินันท์ธาร หัวหน้าสำนักงาน ปภ.น่าน ได้เข้าตรวจสอบรอยดินแยกบ้านก่อก๋วงใน หมู่ 11 ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน
โดยพบว่าหลังมีฝนตกลงมาต่อเนื่องทำให้เกิดดินแยกเป็นทางยาวประมาณ 200 เมตร และล่าสุดดินทรุดตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านก่อก๋วงในประมาณ 60 ครัวเรือน กว่า 300 คน ไม่สามารถใช้รถยนต์สัญจรผ่านเส้นทางนี้ได้ ต้องเดินลัดเลาะบนเขาและใช้ได้เพียงรถจักรยานยนต์เพื่อเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น
นายเจริญ ขันหลวง อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 บ้านบ่อหลวง ต.บ่อเกลือใต้ ซึ่งเป็นสมาชิกเทศบาลตำบลบ่อเกลือใต้ เขต 1 เปิดเผยว่า หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.บ่อเกลือ ได้เกิดรอยแยกขึ้น และมีการทรุดตัวเพิ่ม หากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องอีกก็ถือว่าเป็นวิกฤต เพราะดินบริเวณรอยแยกอาจทรุดตัวและสไลด์ลงไปยังพื้นที่ราบข้างล่าง ซึ่งเป็นต้นน้ำมาง แล้วก็จะเกิดเป็นดินโคลนเข้าไหลทับถม 7 หมู่บ้านซึ่งอยู่ด้านล่าง ได้แก่ บ้านบ่อหลวง, บ้านผาคับ, บ้านนาคอก, บ้านนาเปลื่อง, บ้านนาขาม, บ้านผักเฮือก และบ้านนาขวาง รวมถึงพื้นที่นาข้าวอีกกว่า 300 ไร่
โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ติดกับริมน้ำมาง อย่างบ้านบ่อหลวงจะได้รับผลกระทบก่อน ซึ่งหากเกิดรอยแยกเพิ่มมากขึ้นและกลายเป็นดินสไลด์ใหญ่ก็จำเป็นที่จะต้องอพยพชาวบ้านบ่อหลวงไปยังโรงเรียนบ้านบ่อหลวงเพื่อความปลอดภัย
ด้านนายอุกริชได้สั่งการให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมช่วยเหลือชาวบ้านทันที โดยจะประกาศห้ามใช้รถยนต์สัญจรผ่านเส้นทางรอยแยก และเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง พร้อมให้ระดับพื้นที่ อ.บ่อเกลือเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องปริมาณน้ำฝนและรอยแยกที่อาจทรุดตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนข้อกังวลที่ดินจะสไลด์ลงไปทับอีก 7 หมู่บ้าน คาดการณ์ว่าอาจเกิดได้ยาก แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง