ฉุนจัด! สั่งล่า “วันชัย วิจิตรกุล” อ้างเป็นหน้าห้องผู้ว่าฯ รีดเงินเคลียร์คดีไม้เถื่อน

พิษณุโลก - ผู้ว่าฯ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นหน้าห้อง รับเคลียร์คดีป่าไม้ หลังป่าไม้-ทหารลุยจับไม้เถื่อนบ้านแก่งคันนา บอกจ่าย 30,000 บาทหลุดคดี

วันนี้ (21 ก.ค.) นายสำรวย ภู่สุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก พร้อมผู้ต้องหาคดีมีไม้เถื่อนไว้ในครอบครอง คือ นายสำราญ แซ่เรือง นายชาญ ศรีสุนันท์ นายบุญธรรม ยศเกียรติ ชาวบ้านหมู่ 7 ต.คันโช้ง ที่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้และทหารบุกจับเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ชัยยศ เนินศรี ร้อยเวร สภ.วัดโบสถ์

โดย พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ พูลเผ่าดำรงค์ ผกก.สภ.วัดโบสถ์ ลงมาดูแลคดีด้วยตัวเอง เนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหากลายเป็นโจทก์ร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน้าห้องและพักอยู่ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก หลอกเงินค่าเคลียร์คดีที่ถูกจับกุมตาม พ.ร.บ.ป่าไม้

นางสำราญ แซ่เรือง อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ 7 ต.คันโช้ง ภรรยาผู้ต้องหา กล่าวว่า สามีถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้และทหารจับกุม พร้อมยึดไม้แปรรูปที่บ้านพัก ซึ่งวันนี้สามีตนก็เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ แต่หลังเหตุจับกุมเพียง 2 วัน คือ วันที่ 18 ก.ค.มีโทรศัพท์จากชายคนหนึ่งมาหาผู้ใหญ่บ้านในช่วงเช้า (เวลาประมาณ 08.00 น.) อ้างว่าชื่อนายวันชัย วิจิตรกุล ทำงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และอยู่ที่จวนผู้ว่าฯ บอกว่าทางผู้ว่าฯ เห็นใจชาวบ้านที่ถูกจับกุม ยินดีจะช่วยเหลือไม่ให้ถูกดำเนินคดี และจะนำไม้แปรรูปคืนให้ชาวบ้านทั้งหมด ทำให้ตนตื่นเต้น และดีใจที่มีคนมาช่วยเหลือ

นางสำราญกล่าวว่า นายวันชัยได้ถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนว่ามีกำลังเท่าไหร่ ไม่ได้บังคับ เพียงแต่จะนำไปให้ป่าไม้กับตำรวจ ทำให้สามีตน และเพื่อนบ้านอีก 2 คนที่ถูกป่าไม้จับดำเนินคดีที่นั่งอยู่กับผู้ใหญ่บ้านด้วย ยินดีที่จะจ่ายเพื่อให้หลุดพ้นคดี

จากนั้นต่างพากันไปกู้ยืมเงินจากเพื่อนบ้าน รวบรวมเงินสดได้ 30,000 บาทมามอบให้ผู้ใหญ่บ้านเพื่อโอนเงินไปให้นายวันชัย วิจิตรกุล เข้าบัญชีธนาคารธนชาต สาขาจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ เวลา 10.00 น. ผ่านทางธนาคารออมสิน

หลังโอนเงินนายวันชัยยังโทรศัพท์มาคุยอีกว่าได้เคลียร์กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 15,000 บาท และร้อยเวร 15,000 บาท แล้วจะนำเอกสารคืนไม้มาให้ พร้อมจะมากินข้าวด้วยวันเสาร์ ต่อมาก็ไม่มีโทรศัพท์ติดต่อมาอีก และนายวันชัยก็ไม่ปรากฏตัว ทำให้ตนรู้ว่าถูกหลอก

ด้านนายสำรวยกล่าวว่า ที่บอกว่าชาวบ้านพากันมายื่นหนังสือชี้แจงเรื่องตำรวจไม่ได้รับแจ้งความนั้นไม่เป็นความจริง เพราะจริง แล้ววันแรกตนเดินทางมาที่โรงพักเพื่อปรึกษาคดีกับตำรวจก่อน แล้วจึงมาแจ้งความดำเนินคดีนี้

พ.ต.อ.เชิดศักดิ์กล่าวว่า กรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 คดี กรณีผู้ต้องหา 3 รายก็ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ส่วนอีกคดีคือ คดีฉ้อโกง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ก็จะต้องหาตัวผู้รับโอนเงินปลายทาง เชื่อว่าจะติดตามหาผู้แอบอ้างเป็นหน้าห้องผู้ว่าฯ ได้แน่นอน

ต่อมาชาวบ้านทั้งหมดได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกเพื่อพบกับผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ติดราชการ จึงมอบให้นายประทีป ศิลปเทศ ปลัดจังหวัด ลงมารับหนังสือร้องเรียนกรณีถูกหลอกโอนเงิน

ด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ทราบเรื่องแล้ว ยืนยันว่าไม่มีชื่อนายวันชัยทำงานหน้าห้อง หรือทำงานที่จวนฯ แน่นอน แต่เรื่องนี้ตนนิ่งเฉยไม่ได้แน่ ถ้านิ่งถือว่ายอมรับ ดังนั้นจะตามตัวให้ถึงที่สุด เบื้องต้นเชื่อว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนวงในที่รู้ความเคลื่อนไหวคดีนี้ดี