ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจประจวบคีรีขันธ์ ตามรวบตัวพ่อค้ากล้วยปิ้งเพิ่งพ้นโทษคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงที่เรือนจำประจวบฯ ผันตัวมาเป็นเอเยนต์ยานรกขายยาให้วัยรุ่นในหัวหิน-ปราณบุรี พร้อมขยายผล ผู้ต้องหารับสารภาพก่อนจะถูกจับกุมคดียาเสพติด เพิ่งลงมือข่มขืนเหยื่อที่เป็นหญิงสาวมาแล้ว 2 รายซ้อน
วันนี้ (20 ก.ค.) พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัชรพงษ์ รบอาจ รอง ผกก.สส.สภ.หัวหิน พ.ต.ท.พรชัย ศรีแดงบุตร สวป.สภ.หัวหิน และชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นายอัครราช หรือเอส รัตนดี อายุ 39 ปี พ่อค้าขายกล้วยปิ้งใกล้สถานีรถไฟหัวหิน อยู่บ้านเลขที่ 108/7 ซอยหมู่บ้านบ่อฝ้าย ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวม 50.58 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่านายอัครราช หรือเอส มีพฤติกรรมในการจำหน่ายเสพติด ยาไอซ์ ให้แก่วัยรุ่น และผู้ใช้แรงในพื้นที่ อ.ปราณบุรี และ อ.หัวหิน มานาน จึงได้วางแผนให้สายลับเข้าทำการล่อซื้อยาไอซ์จากผู้ต้องหา โดยนัดส่งยากันที่บริเวณท่ารถตู้โดยสาร อ.ปราณบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ต้องหากำลังลงจากรถจึงได้ควบคุมตัวแ ละตรวจค้นตามร่างกายพบยาไอซ์บรรจุอยู่พลาสติกใส 2 ถุง ในกระเป๋าสะพายหนังสีดำ จึงได้ควบคุมไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรปราณบุรี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยมีนายทุนได้ว่าจ้างทางโทรศัพท์ให้ตนรับยาไอซ์ที่กรุงเทพฯ และนำไปส่งให้แก่ลูกค้าที่ อ.ปราณบุรี โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท จนมาถูกจับได้
นอกจากนั้น จากการสอบสวน นายอัครราช หรือเอส ผู้ต้องหา ยังยอมรับด้วยว่า เคยถูกจับกุมในคดีความผิดฐานพรากผู้เยาว์ในพื้นที่ อ.หัวหิน เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2551 และเมื่อพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2556 หลังจากนั้นก็ได้ก่อเหตุคดีข่มขืนหญิงสาวอีก
โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2557 เวลาประมาณ 00.45 น. ได้ก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวอีกรายที่บริเวณริมถนนหัวหิน ห้วยมงคล ม.4 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และในวันที่ 19 มิถุนายน 2557 เวลาประมาณ 23.30 น. ก็ได้ก่อเหตุพยายยามข่มขืนหญิงสาวอีกรายที่บริเวณบ้านหนองขอน หนองพรานพุก ม.1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยนายอัครราช สารภาพว่า ก่อนก่อเหตุตนจะใช้วิธีสวมผ้าปิดจมูกปิดบังใบหน้า แล้วขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนออกไปตอนกลางคืนโดยจะใช้เส้นทางที่เปลี่ยว หาเหยื่อสาวที่ขี่รถจักรยานยนต์มาตามลำพัง เมื่อเจอเหยื่อที่เป็นผู้หญิงขี่รถจักรยานยนต์มาก็จะขี่รถเข้าไปประกบเหยื่อแล้วชักกุญแจรถของเหยื่อให้รถหยุด และใช้เท้าถีบรถของเหยื่อจนคว่ำ จากนั้นจะใช้กำลังดึงเหยื่อเข้าไปในป่าริมทางเพื่อข่มขืน ถ้าเหยื่อขัดขืนก็จะใช้กำลังร้ายร่างกายจนเหยื่อหมดทางสู้จากนั้นลงมือข่มขืน
พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ตำรวจได้ติดตามตัวคนร้ายมานาน เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ มีหญิงสาวหลายรายถูก นายอัครราช ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา บางคนอายไม่กล้าเข้าแจ้งความ ซึ่งตัว นายอัครราช เองก็เพิ่งพ้นโทษคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง ติดคุกนาน 5 ปี ที่เรือนจำประจวบคีรีขันธ์ หลังออกมาแล้วก็ยังไม่เข็ดหลาบมาก่อเหตุซ้ำอีก แถมยังมีพฤติการณ์เป็นพ่อค้าจำหน่ายยาเสพติดด้วย จึงถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ในที่สุด