ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับคดีข่มขืนกระทำชำเรา 2 น้า-หลาน ชาวพม่า เข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมให้การปฏิเสธ หลังเหยื่อสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดี ถูกชายฉกรรจ์พาไปข่มขืนบนรถบริเวณบ้านเขาขาด จ.ภูเก็ต
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อาระยพันธ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำพล จันทรกูล รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต และ พ.ต.ท.จักรวรรดิ บุญทวีกุลสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต ร่วมกันเปิดเผยถึงกรณีมีแรงงานชาวพม่า จำนวน 2 คน คือ น.ส.โซ่ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี และ ด.ญ.เดือน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ถูกชายฉกรรจ์พาทั้ง 2 คนไปข่มขืนกระทำชำเราบนรถเก๋งที่บริเวณบ้านเขาขาด ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ซึ่งหลังจากรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจ สภ.วิชิต และชุดปราบปราม รวมทั้งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสืบสวนสอบสวน จนทราบตัวบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ และมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งรวบรวมพยานหลังฐาน จนมีการขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับ นายธวัชชัย สวัสดิรักษา อายุ 44 ปี ตามหมายศาลที่ จ.325/2557 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ต่อหน้าธารกำนัน กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนเองโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี และเด็กไม่เกิน 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และความผิดต่อเสรีภาพ
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อาระยพันธ์ กล่าวว่า หลังศาลอนุมัติหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกติดตามจับกุมคนร้าย จนกระทั่งวันนี้ (20 พ.ค.) ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในเบื้องต้นทางผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
และจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งทำงาน และพักอาศัยอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณอ่าวยนต์-เขาขาด ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทราบว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.57 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. น.ส.โซ่ ได้เดินทางมาจากจังหวัดพังงา และมาลงรถที่ บขส.ภูเก็ต ขณะยืนรอรถเพื่อเดินทางกลับที่พัก ได้มีผู้ชายคนหนึ่งขับรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน กต 8648 ภูเก็ต เข้ามาชวนพูดคุย และอาสาจะไปส่งที่พัก เมื่อมาถึงที่ร้านอาหารดังกล่าว ชายคนดังกล่าวก็ได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางการเข้ามาอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง น.ส.โซ่ ได้นำมาแสดงให้ดู ขณะนั้นด.ญ.เดือน ซึ่งเป็นหลานของ น.ส.โซ ยืนรออยู่หน้าร้าน ชายคนดังกล่าวจึงขอตรวจหนังสือเดินทาง แต่ ด.ญ.เดือน ไม่สามารถนำมาแสดง
ชายคนดังกล่าวจึงข่มขู่บังคับให้ทั้ง 2 คนขึ้นรถยนต์คันดังกล่าว ขับไปตามถนนอ่าวยนต์-เขาขาดเลียบชายทะเล พาขับวนเวียนไปหลายรอบจนค่ำ ต่อมา ได้จอดรถบริเวณข้างทางซึ่งเป็นป่าละเมาะซึ่งเป็นที่เปลี่ยว และใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้ง 2 คน พร้อมนำเอาทรัพย์สินของทั้ง 2 คน หลังจากนั้นได้ขับรถไปส่งทั้ง 2 คน ที่ข้างทางใกล้กับร้านอาหารดังกล่าว ก่อนที่จะหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม หลังจากรับมอบตัวทางเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้เสียหายต พร้อมนำรถมาตรวจสอบหาพยานหลักฐานต่อไป
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (20 พ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อาระยพันธ์ พุกบัวขาว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำพล จันทรกูล รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต และ พ.ต.ท.จักรวรรดิ บุญทวีกุลสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต ร่วมกันเปิดเผยถึงกรณีมีแรงงานชาวพม่า จำนวน 2 คน คือ น.ส.โซ่ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี และ ด.ญ.เดือน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ถูกชายฉกรรจ์พาทั้ง 2 คนไปข่มขืนกระทำชำเราบนรถเก๋งที่บริเวณบ้านเขาขาด ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ซึ่งหลังจากรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจ สภ.วิชิต และชุดปราบปราม รวมทั้งชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสืบสวนสอบสวน จนทราบตัวบุคคลต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ และมีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งรวบรวมพยานหลังฐาน จนมีการขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับ นายธวัชชัย สวัสดิรักษา อายุ 44 ปี ตามหมายศาลที่ จ.325/2557 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ต่อหน้าธารกำนัน กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนเองโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี และเด็กไม่เกิน 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และความผิดต่อเสรีภาพ
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.อาระยพันธ์ กล่าวว่า หลังศาลอนุมัติหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกติดตามจับกุมคนร้าย จนกระทั่งวันนี้ (20 พ.ค.) ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในเบื้องต้นทางผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
และจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งทำงาน และพักอาศัยอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บริเวณอ่าวยนต์-เขาขาด ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทราบว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.57 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.30 น. น.ส.โซ่ ได้เดินทางมาจากจังหวัดพังงา และมาลงรถที่ บขส.ภูเก็ต ขณะยืนรอรถเพื่อเดินทางกลับที่พัก ได้มีผู้ชายคนหนึ่งขับรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน กต 8648 ภูเก็ต เข้ามาชวนพูดคุย และอาสาจะไปส่งที่พัก เมื่อมาถึงที่ร้านอาหารดังกล่าว ชายคนดังกล่าวก็ได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางการเข้ามาอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง น.ส.โซ่ ได้นำมาแสดงให้ดู ขณะนั้นด.ญ.เดือน ซึ่งเป็นหลานของ น.ส.โซ ยืนรออยู่หน้าร้าน ชายคนดังกล่าวจึงขอตรวจหนังสือเดินทาง แต่ ด.ญ.เดือน ไม่สามารถนำมาแสดง
ชายคนดังกล่าวจึงข่มขู่บังคับให้ทั้ง 2 คนขึ้นรถยนต์คันดังกล่าว ขับไปตามถนนอ่าวยนต์-เขาขาดเลียบชายทะเล พาขับวนเวียนไปหลายรอบจนค่ำ ต่อมา ได้จอดรถบริเวณข้างทางซึ่งเป็นป่าละเมาะซึ่งเป็นที่เปลี่ยว และใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายทั้ง 2 คน พร้อมนำเอาทรัพย์สินของทั้ง 2 คน หลังจากนั้นได้ขับรถไปส่งทั้ง 2 คน ที่ข้างทางใกล้กับร้านอาหารดังกล่าว ก่อนที่จะหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม หลังจากรับมอบตัวทางเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้เสียหายต พร้อมนำรถมาตรวจสอบหาพยานหลักฐานต่อไป