ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านแหลมฉบังวอนท่าเรือรีบแจ้งหากเกิดผลกระทบต่อชาวบ้าน ไม่ใช่ปล่อยให้ปัญหาบานปลาย ล่าสุด กลิ่นเบาบางลงมากแล้ว ด้าน ผอ.ท่าเรือ เดินทางเยี่ยมผู้ป่วยทั้ง 4 โรงพยาบาล
จากความคืบหน้ากรณีสารเคมีรั่วไหล ที่ท่าเทียบเรือ B3 ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชบลบุรี จนสร้างความแตกตื่น ประชาชนพื้นที่รอบข้างการท่าเรือแหลมฉบัง ต้องอพยพออกนอกพื้นที่กันอย่างโกลาหลนั้น
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.ค.) นายมานะ ภู่ละมัย กรรมการชุมชนแหลมฉบัง กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางท่าเรือแหลมฉบัง ควรแจ้งให้ชาวบ้านทราบตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แล้ว เพราะเหตุเกิดประมาณ 10.00 น. แต่ชาวบ้านมาทราบเรื่องในช่วงเวลา 12.00 น. ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากเริ่มคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้วจึงแจ้งชาวบ้านทำการอพยพ
นอกจากนี้ ทราบว่าทางการท่าเรือได้นำเรือที่เกิดปัญหาออกไปจอดทอดสมอกลางทะเลบริเวณเกาะนก ซึ่งห่างจากฝั่งไม่มากนัก ซึ่งเรื่องนี้ทางการท่าเรือแหลมฉบัง ควรจะต้องนำออกไปให้ไกลกว่านี้ เพราะหากลมพัดเข้ามาสู่ชายฝั่งก็ยังได้กลิ่นบ้างเล็กน้อย ควรรีบนำออกไปให้ไกลจากฝั่งกว่า 20 กิโลเมตร และเร่งกำจัดให้กลิ่นหมดไปโดยเร่งด่วน
นายมานะ กล่าวว่า โชคดีที่ลมไม่ได้พัดเข้าสู่หมู่บ้านแหลมฉบังโดยตรง ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดในขณะเกิดเหตุ แต่พัดไปทางด้านชุมชนเด็กเล็ก ที่ห่างออกไปประมาณ 5-6 กิโลเมตร แต่ก็ทำให้เด็กได้รับอันตราย จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่หากเข้าหมู่บ้านแหลมฉบัง คงได้รับอันตรายมากกว่านี้อย่างแน่นอน
ด้านนายเพชร ขวัญเมือง กล่าวว่า ต้องการให้ผู้ประกอบการมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะอุบัติเหตุเกิดได้เสมอ ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถอยู่รวมกันได้โดยไม่มีปัญหา โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้มีกลิ่นแรงจนมีบางส่วนต้องอพยพออกจากพื้นที่ แต่ในเช้าวันนี้กลิ่นเบาบางลงไปมากแล้ว
ด้าน ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบเหตุการณ์สารเคมีรั่วจาก ISO TANK ซึ่งอยู่บนเรือสินค้าที่เข้าเทียบท่ายังท่าเทียบเรือ บี 3 ซึ่งเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา โรงพยาบาลแหลมฉบัง และโรงพยาบาลวิภา-ราม โดยยืนยันว่า จะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และจะติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด