นายสมนึก จงมีวสิน ผู้ประสานงานเครือข่ายเพื่อนตะวันออก เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่า ได้เกิดเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลในท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. โดยเป็นการรั่วไหลของสารเคมีบิวทิล อะครีเลท ระหว่างการขนส่งที่อยู่ในถังพิเศษสำหรับเก็บสารเคมี ซึ่งเกิดการฉีกขาดที่ถังทำให้เกิดไอปลิวขึ้นไปในอากาศ ประชาชนที่อยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง บี 3 ที่มีการขนส่งได้มีการอพยพทั้งหมด แต่ว่ามีคนหนึ่งที่อยู่บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง บี 1 ที่ติดอยู่กับท่าเรือบี 3 ซึ่งเป็นคนขับรถลากพอลงจากรถได้ดมกลิ่นเข้าไป และเกิดการคลื่นเหียนอาเจียนจนต้องเข้าโรงพยาบาล หลังจากนั้นลมได้พัดเอาสารเคมีไปถึงโรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง รวมถึงบางพื้นที่ของอ่าวอุดม ทำให้มีคนเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลทั้งหมดกว่า 80 คน
ทั้งนี้ บิวทิล อะครีเลทเป็นสารเคมีที่ใช้ในวงการผสมสี กาว ซึ่งอยู่ในความควบคุมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยอนุญาตให้นำเข้าได้ แต่ต้องมีเอกสารในการนำเข้าและต้องควบคุม ซึ่งเชื่อว่าในกระบวนการขนย้ายมีความประมาทเกิดขึ้น ทำให้ถังฉีกขาดได้และระบบการป้องกันภัยในบ้านเราถือว่ายังไม่มีประสิทธิภาพ ยังไม่สามารถหยุดการรั่วไหลได้ ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุยังสามารถได้กลิ่นของสารเคมีและเกิดอาการคลื่นเหียน ซึ่งแสดงว่ากลิ่นสะพัดไปได้ทุกทิศทางขึ้นอยู่กับกระแสลม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทางเทศบาลควรจะอพยพคนออกไปจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่ยังไม่สามารถหยุดการรั่วไหลได้ ส่วนชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงมีประชาชนประมาณ 3,000 คน
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าไม่มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่เกิดสารเคมีรั่วไหล ส่วนอาการของผู้ป่วยมีตั้งแต่เจ็บตา เคืองตา รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนวิงเวียนศีรษะ บางคนถึงกับต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะสารเคมีมีฤทธิ์แบบนั้นอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าสูดดมมากๆ อาจจะทำให้ปอดอักเสบได้
ทั้งนี้ บิวทิล อะครีเลทเป็นสารเคมีที่ใช้ในวงการผสมสี กาว ซึ่งอยู่ในความควบคุมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยอนุญาตให้นำเข้าได้ แต่ต้องมีเอกสารในการนำเข้าและต้องควบคุม ซึ่งเชื่อว่าในกระบวนการขนย้ายมีความประมาทเกิดขึ้น ทำให้ถังฉีกขาดได้และระบบการป้องกันภัยในบ้านเราถือว่ายังไม่มีประสิทธิภาพ ยังไม่สามารถหยุดการรั่วไหลได้ ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่เกิดเหตุยังสามารถได้กลิ่นของสารเคมีและเกิดอาการคลื่นเหียน ซึ่งแสดงว่ากลิ่นสะพัดไปได้ทุกทิศทางขึ้นอยู่กับกระแสลม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทางเทศบาลควรจะอพยพคนออกไปจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่ยังไม่สามารถหยุดการรั่วไหลได้ ส่วนชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงมีประชาชนประมาณ 3,000 คน
สำหรับจำนวนผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าไม่มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่เกิดสารเคมีรั่วไหล ส่วนอาการของผู้ป่วยมีตั้งแต่เจ็บตา เคืองตา รู้สึกคลื่นไส้อาเจียนวิงเวียนศีรษะ บางคนถึงกับต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะสารเคมีมีฤทธิ์แบบนั้นอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อสุขภาพ ถ้าสูดดมมากๆ อาจจะทำให้ปอดอักเสบได้