ประจวบคีรีขันธ์ - วันแรกปฏิบัติการจับ “5 จอม” ที่หัวหิน คึกคัก ประชาชนตื่นตัว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ติดตามผล พร้อมเผยช่วยลดการกระทำผิดได้ร้อยละ 80 ผลักดันเป็นหัวหินโมเดล ต้นแบบในภูมิภาค
วันนี้ (17 ก.ค.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ลงพื้นที่บริเวณหน้าตลาดฉัตรไชย ถนนเพชรเกษม อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อม พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ท.รณกร ประคองศรี รองผู้กำกับภูธรหัวหิน พ.ต.ท.พันศา อมราพิทักษ์ สารวัตรตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน ตำรวจภูธรหัวหิน อาสาตำรวจท่องเที่ยว เพื่อกวดขันวินัยจราจร และจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฏหมายจราจร ตามโครงการปฏิบัติงานจราจรภาค 2 จับ 5 จอม ซึ่งการกระทำผิด 5 จอม
คือ จอมปาด ข้อหาขับปาดแซงเส้นทึบ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท / จอมล้ำ ข้อหาหยุดรถล้ำเส้นหยุด ปรับไม่เกิน 1,000 บาท / จอมขวาง ข้อหาหยุดรถขวางแยก ปรับไม่เกิน 500 บาท / จอมย้อน ข้อหาขับย้อนศร ปรับไม่เกิน 500 บาท และจอมปลอม ข้อหาป้ายทะเบียนปลอม ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการในระยะแรกพบว่า ปัญหาจราจรเกิดจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่เป็นหลัก จึงเป็นที่มาของการดำเนินในระยะที่ 2 คือ โครงการ จับ 5 จอม นอกจากจะเริ่มในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ของ บช.น.แล้ว ยังได้เริ่มที่หัวหิน ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตภูมิภาคเป็นแห่งแรก และเริ่มบังคับใช้นโยบายนี้ในวันนี้เป็นวันแรกด้วย เนื่องจากหัวหิน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติเข้ามาเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ซึ่งจะมีปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเป็นต้นแบบ หรือหัวหินโมเดลให้แก่พื้นที่อื่นในการแก้ปัญหาจราจรต่อไปด้วย ทั้งนี้ พบว่าประชาชนมีความตื่นตัวอย่างมาก สามารถลดการกระทำผิดลงได้ประมาณร้อยละ 80 ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนโดยตรง
สำหรับวันนี้ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่จะเป็นจอมย้อน คือ รถจักรยานยนต์ขับย้อนเส้นทาง และจอมล้ำ คือ จอดรถล้ำเส้นหยุดบริเวณสี่แยก ขณะเดียวกัน ก็ยังพบจอมขวาง, จอมปาด และจอมปลอมด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกวดขันกันอย่างเต็มที่
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การดำเนินงานจับ 5 จอม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีการบูรณาการกำลังตำรวจ และอาสาสมัครจาก ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจทางหลวงเข้ามาร่วมปฏิบัติงานด้วย